นายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดมือถือครึ่งปีหลังแข่งขันรุนแรงมาก เนื่องจากเป็นช่วงพีค ซีซั่นที่จะมีผู้ซื้อมือถือเพิ่มขึ้น รวมทั้งป็นช่วงที่จะเริ่มมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้น เช่น ซีพียู หน้าจอ และเทคโนโลยีมัลติทัช

รวมทั้งแนวโน้มการเปิดให้ บริการ 3จีที่จะครอบคลุมผู้ใช้ทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นหลักที่ทำให้เกิดความต้องการใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น โดยเป็นไปได้ว่าจะถึง 50% ของตลาดภายใน 2 ปีจากปัจจุบันมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนในไทยแล้วราว 15% จากตลาดรวมผู้ใช้มือถือทั้งหมด

"การใช้สมาร์ทโฟนในไทยยังอยู่ช่วงเริ่มต้นจากสัดส่วนที่ยังแค่ 15% ทำให้โอกาสที่จะไปมีอีกมหาศาล โดยปัจจุบันซัมซุงเริ่มขายสมาร์ทโฟนแล้วคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของกลุ่มมือถือ" นายวิชัยกล่าว

พร้อมเผยว่า ผลประกอบการของซัมซุงใน ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมามีรายได้จากกลุ่มมือถือเติบโตได้ถึง 50% จากตลอดทั้งปีที่ผ่านมาโตได้ราว 30% ทำให้บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายเฉลี่ยทั้งปีนี้จะเติบโตได้ถึง 80%

เขาระบุว่า ซัมซุงยังยึดกลยุทธ์หลักคือ การผลักดันสินค้านวัตกรรม เช่น แพลตฟอร์มบาด้า และเน้นทำตลาดมือถือในกลุ่มแอนดรอยด์ ซึ่งปัจจุบันซัมซุงมี ส่วนแบ่งตลาดบนแพลตฟอร์มดังกล่าวแล้ว 80% ของตลาด รวมทั้งการทำตลาดมือถือให้ครอบคลุมตั้งแต่เอ็นทรี-พรีเมียม หรือราคาระดับ 5,000 บาทจนถึงหลักหลายหมื่นบาท

"ตลาดไทยค่อนข้างพิเศษคือ ในกรุงเทพฯ สัดส่วนคนใช้มือถือราว 70-75% จะเป็นระดับสมาร์ทโฟน แต่ตลาดต่างจังหวัดราว 60-70% จะเป็นผู้ใช้ฟีเจอร์โฟน ทำให้บริษัทต้องดูว่าแต่ละตลาดมีเมเจอร์ใหญ่เป็นอย่างไร และนำสินค้ามาทำตลาดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย" นายวิชัยกล่าว

นายสิทธิโชค นพชินบุตร ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด ธุรกิจโทรคมนาคม บริษัทเดียวกัน เผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังซัมซุงวาง แผนเปิดตัวมือถือทั้งฟีเจอร์ โฟน และสมาร์ทโฟน รวมกันกว่า 20 รุ่นจากครึ่งปีที่เปิดไปแล้วอีกกว่า 20 รุ่น รวมทั้งเปิดตัวแอนดรอยด์ แทบเล็ต ในตระกูล "กาแล็กซี่ แทบ" เพิ่มเติมอีก 2 รุ่นคือ 8.9 นิ้ว และ 10.1 นิ้ว โดยรุ่นหลังจะร่วมมือกับ "เอไอเอส" เปิดตัวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ช่วงเดือน ส.ค.นี้