จากการคาดการณ์ของหลายสำนักที่ว่าปริมาณโทรศัพท์มือถือรวมทุกรุ่น ทุกแบรนด์ และทุกประเภทน่าจะมีมากกว่า 7 - 8 ล้านเครื่อง

จาก การคาดการณ์ของหลายสำนักที่ว่าปริมาณโทรศัพท์มือถือรวมทุกรุ่น ทุกแบรนด์ และทุกประเภทน่าจะมีมากกว่า 7 - 8 ล้านเครื่อง โดยอัตราการเติบโตอิงกระแสของการใช้งานดาต้า และโมบาย บรอดแบนด์ เพื่อคอนเน็คสู่โซเชียล เน็ตเวิร์ค อย่างเฟชบุ๊ค หรือทวิตเตอร์

ขณะที่ ส่วนแบ่งตลาดของสมาร์ทโฟนก็ มีอัตราการเติบโตจากปีก่อนๆ มากกว่า 100% คิดเป็น 3 ล้านเครื่องของตลาดรวมโทรศัพท์มือถือทั้งหมดปีนี้ แต่กูรูหลายคนมองเทรนด์การเติบโตแบบก้าวกระโดดลักษณะนี้ว่า อาจเป็นเพียงระยะสั้น และตลาดสมาร์ทโฟนเริ่มสู่จุดอิ่มตัวแล้ว

เชื่อต่างจังหวัดตอบรับดี
นายณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดสมาร์ทโฟนยัง มีช่องทางขยายตัวได้อีกมาก โดยเฉพาะเครื่องระดับมิด-ไฮ และซูเปอร์ไฮ ทั้งการเติบโตของความต้องการยังกระจาย ไปยังกลุ่มเป้าหมายลูกค้าต่างจังหวัด และหัวเมืองใหญ่มากกว่าลูกค้า กทม. จากจำนวนเครื่องต่อจำนวนประชากรพื้นที่นี้น่าจะสูงเกิน 100% แล้ว ดังนั้น เอชทีซีกำลังศึกษาแนวทางการทำตลาดต่างจังหวัด โดยสิ่งสำคัญที่จะคำนึงคือ การสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแรง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครบถ้วน ซึ่งปัจจุบันยอดขายของเอชทีซีแบ่งเป็น กทม.ราว 80% และต่างจังหวัด 20%

"แม้ จะมีแบรนด์ต่างประเทศ ทั้งไอโฟน และแบล็คเบอร์รี่เข้ามามากช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าการเติบโตในระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ของไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับต่างประเทศ ซึ่งเราก็ยังมั่นใจในสินค้า การออกแบบ ฟังก์ชั่นของเอชทีซี ว่าสามารถแข่งขันได้แน่นอน ส่วนอัตราการขยายตัวของสมาร์ทโฟนในประเทศยังมีปริมาณโตมากกว่า 2 ดิจิต"

เขา กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลังนี้ เอชทีซีจะนำสมาร์ทโฟนเข้ามาจำหน่ายอีก 4-5 รุ่น และเตรียมส่ง อีโว 3มิติ โทรศัพท์สมาร์ทโฟน 3มิติลงตลาดเดือนส.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้ กำลังขอใบอนุญาตนำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคมจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการวิทยุ กระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม (กสทช.) โดยที่เลือกช่วงไตรมาส 3 เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นไฮไลท์ หรือออกรุ่นใหม่จำนวนมากนั้น เพราะตลาดโทรศัพท์มือถือครึ่งปีหลังถือเป็นไฮ-ซีซั่นของอุตสาหกรรม

เจาะกลุ่มต่ำหมื่น เมินดัมพ์ราคา
นายณัฐวัชร์ ระบุว่า ภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านเครื่อง เติบโตประมาณ 20% โดยส่วนแบ่งทางการตลาดสมาร์ทโฟนเข้า มากินแชร์ตลาดรวมมากกว่า 40% จากยอดรวมโทรศัพท์มือถือที่มีราว 7.5 ล้านเครื่อง ซึ่งตัวเลขเป็นลักษณะนี้มา 1-2 ปีแล้ว และเชื่อว่า อนาคตแชร์ของสมาร์ทโฟนจะ เพิ่มขึ้น จากปริมาณความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ และการความนิยมของเฟซบุ๊คในประเทศไทย ซึ่งเอชทีซีก็มีแผนจะออก "เอชทีซี เฟซบุ๊คโฟน" รองรับความต้องการของลูกค้า

ส่วนแนวทางการทำตลาด จากที่ผู้ประกอบรายหลายลงมาทำจับตลาดกลุ่มลูกค้าแมส โดยเล่นราคาระดับ 5,000-6,000 บาทนั้นบริษัทมองว่า การทำสงครามราคาจะทำให้ผู้ประกอบการเจ็บตัว และยิ่งแข่งขันกันดัมพ์ราคายิ่งทำให้ตลาดไม่เป็นไปตามกลไกธรรมชาติ ดังนั้น จุดยืนของเอชทีซียังคงให้ความสำคัญในการทำตลาดราคาเครื่องละ 9,000 บาท หรือหมื่นต้นๆ

เน็ตเวิร์ค-ดีไวซ์-เทคโนฯ สำคัญ
นาย สมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนเติบโตมาก มาจาก 3 องค์ประกอบสำคัญ คือ 1.ดีไวซ์ราคาต่ำลง ช่วงที่ผ่านมาระดับราคาลดลงกว่า 50% เฉลี่ยอยู่ 15,000 บาท หรือกลุ่มสมาร์ทโฟนกลางที่ 10,000 บาท กลุ่มผู้ใช้งานกระจายไปยังวงกว้างมากขึ้น และอายุน้อยลง จากเดิมเป็นเฉพาะกลุ่ม หรือนักธุรกิจ

2. เน็ตเวิร์คการใช้งานดาต้าถือว่าเกือบสมบูรณ์แล้ว ทำให้นิยมเล่นอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ด้วยการใช้งาน 3จีในรูปแบบต่างๆ และ 3. เทคโนโลยี ที่ปรับปรุงให้สมาร์ทโฟนทำงานหลายฟังก์ชั่น ทั้งเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนตัว กล้องถ่ายรูป หรือแม้แต่การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ

ส่วน การเตรียมความพร้อมเปิดบริการ 3จี เอชเอสพีเอบนคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์นั้น เขา กล่าวว่า ผู้เล่นในตลาดพยายามเปิดบริการ 3จีไม่ว่าจะด้วยรูปแบบใด หรือเทคโนโลยีใด เพื่อไม่ให้เสียฐานลูกค้าที่มีอยู่ ซึ่งการเปิด 3จีในครึ่งปีหลังจะยิ่งทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนขยาย ตัวได้มากขึ้นอีก สำหรับเอไอเอสเอง กำลังติดตั้งอุปกรณ์ โดยบางพื้นที่อย่าง กทม. และหัวเมืองใหญ่ใกล้เสร็จแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้บริการได้เร็วๆ นี้

ต้องสร้างความต่าง
เขา กล่าวว่า อัตราการเติบโตของการใช้บริการเสริมช่วงครึ่งปีหลังยังมากขึ้นต่อเนื่อง ปัจจัยหนึ่งมาจากกระแสการใช้สังคมออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนส่งผลให้ตลาดสมาร์ทโฟนเติบโตมากกว่า 100% จากปีก่อน

เอ ไอเอสประเมินรายได้รวมของบริษัทจะเติบโตเลขหลักเดียว แต่รายได้นอนวอยซ์จะโตกว่า 20% คิดเป็น 17% ของรายได้รวม หรือ 1.5 หมื่นล้านบาท แต่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญทดแทนบริการเสียงที่เริ่มขยายตัว ลดลง

นอกจากนี้ ตลาดคอนเทนต์ และแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟนที่ อยู่ช่วงขาขึ้น โดยเฉพาะนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นคนไทย ซึ่งในระบบเอไอเอส แอพ สโตร์ มีกว่า 1 แสนแอพ ส่วนมากผลิตร่วมกับพันธมิตรเพื่อส่งเสริมการใช้ดาต้ามากขึ้น ทั้งเป็นการสร้างสีสันและกลยุทธ์การทำตลาด

ส่วนแอพของเอไอเอสเองมี มากกว่า 100 แอพ ซึ่งครึ่งปีหลังจะพยายามพัฒนาให้ใช้ได้กับทุกระบบปฎิบัติการ ซึ่งผู้ประกอบการต้องพยายามสร้างความแตกต่างรองรับ 3จีที่กำลังจะเกิดขึ้น