เอไอเอสเร่งอัพเกรดเน็ตเวิร์ค 3จี ครึ่งปีหลัง เดินหน้าผนึกกำลังไปรษณีย์ไทยเอาใจขาเที่ยว ส่งไอ-โปสการ์ดผ่านไอโฟน

เอไอเอสเร่ง อัพเกรดเน็ตเวิร์ค 3จี ครึ่งปีหลัง ระบุเอชเอสพีเอบนคลื่น 900 ติดตั้งใกล้เสร็จ เตรียมเปิดบริการเร็วๆ นี้ ลั่นเป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่มีเน็ตเวิร์ครองรับลูกค้าใช้งานดาต้าทุก เทคโนโลยีโดยเฉพาะการโรมมิ่งกับทีโอที มั่นใจอัตราการใช้งานสมาร์ทโฟนยังโตกว่า 100% เดินหน้าผนึกกำลังไปรษณีย์ไทยเอาใจขาเที่ยว ส่งไอ-โปสการ์ดผ่านไอโฟน

นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า การเร่งขยายเครือข่าย 3จีเอชเอสพีเอบนคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ อยู่ระหว่างการติดตั้งอุปกรณ์ที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการวิทยุ กระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) โดยบางพื้นที่อย่าง กทม. และตามหัวเมืองใหญ่ใกล้เสร็จแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเร็วๆ นี้

พร้อมกันนี้ เขาระบุว่า ปีนี้ เอไอเอสได้ ใช้งบสำหรับการขยายโครงข่ายสำหรับ 2จี จำนวน 10,000 ล้านบาท ส่วนการขยายโครงข่าย3จี เอชเอสพีเอ จำนวน 1,884 สถานีฐาน ใช้งบลงทุนราว 2,000 ล้านบาท การเร่งขยายเน็ตเวิร์ค รวมทั้งการเพิ่มปริมาณความจุ (คาปาซิตี้) เนื่องจากอัตรการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ (โมบาย บรอดแบนด์) และการใช้งานดาต้ามีจำนวนสูงมาก และคาดว่า จะขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลังนี้ด้วย เพราะมีผู้ประกอบการหลายรายต่างก็เร่งเปิดบริการ 3จีเอชเอสพีเอ

เขา กล่าวว่า ปัจจุบันเอไอเอสถือ เป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่มีเทคโนโลยีให้ลูกค้าเข้าถึงการใช้งานดาต้าได้ ทุกเทคโนโลยี ทั้งเอดจ์ พลัส ไว-ไฟที่ร่วมกับบริษัท ทริปเปิล ทรี บรอดแบนด์ บริการ 3จีบนคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ และล่าสุดได้ร่วมกับบมจ.ทีโอที ใช้โครงข่าย (โรมมิ่ง) ดาต้า 3จีจากทีโอที เบื้องต้นได้สิทธิโรมมิ่งจำนวน 60,000 เลขหมาย ซึ่งน่าจะเริ่มได้ใช้ได้ทันทีที่ทีโอทีเปิดบริการ 3จี

"การ แข่งขันช่วงนี้ ทุกคนต้องหันไปหา 3จีบนคลื่นความถี่เดิม ซึ่งก็ยังดีกว่าไม่มีบริการเสริมหรือบริการใหม่ๆ อะไรมาให้ลูกค้า เพราะพฤติกรรมก็เปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้งานดาต้ามากขึ้น แต่ในความเห็นส่วนตัวนั้น การเปิด 3จีอย่างแท้จริง และให้บริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คือ ต้องรอการเปิดประมูลบนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์จาก กสทช."

ปัจจุบันการใช้งานสมาร์ทโฟน ถือว่าเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะนี้เอไอเอสมี ลูกค้า ที่ใช้สมาร์ทโฟนราว 3.4 ล้านราย โดยคิดเป็นบริการรายเดือน (โพสต์เพด) 8-9 แสนราย ที่เหลือเป็นบริการเติมเงิน (พรีเพด) ส่วนลูกค้าของเอไอเอสใช้ ระบบปฎิบัติการของแบล็คเบอร์รี่ใช้งานมากเป็นอันดับ1 รองลงมาเป็นระบบปฎิบัติการณ์ไอโอเอสของไอโฟน และระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ ส่วนตลาดรวมสมาร์ทโฟนทั้งหมดที่มี 7.2 ล้านเครื่อง การขยายตัวมีกว่า 100% จากปีก่อน

รายงานข่าวกล่าวว่า จากการปรับปรุงโครงข่าย และทดสอบการทำงานร่วมกันของระบบต่างๆ ของผู้ให้บริการแต่ละราย ทำให้ปัจจุบันทุกค่ายต่างมีปัญหาสัญญาณสะดุด บางครั้งใช้งานไม่ได้ทั้งระบบเสียง และข้อมูล

ด้านนางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับเอไอเอสเปิด บริการ ”สมาร์ทไอโปสการ์ด" (Smart iPostcard) ซึ่งถือเป็นการต่อยอดทางการตลาด และส่งเสริมการส่งโปสการ์ดได้อีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งภาพถ่ายของเรากับสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถบรรยายความรู้สึกต่างๆ ลงบนโปสการ์ด ได้อย่างสะดวกสบายในขั้นตอนการฝากส่งออนไลน์ ด้วยการนำเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนมาเชื่อมต่อกับการเดินทางของไปรษณีย์

บริการช่วงแรก จะเปิดในระบบปฎิบัติการไอโอเอสของไอโฟน คาดว่าช่วง 6 เดือนแรก จะมีคนใช้บริการ 50,000 ราย จากลูกค้าไอโฟนในระบบเอไอเอสที่มีกว่า 1 แสนราย และช่วงเดือน ก.ย.จะเปิดให้ใช้ในระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ต่อไป ซึ่งลูกค้าเอไอเอสทุก ระบบสามารถสั่งพิมพ์และส่งสมาร์ท ไอโปสการ์ดได้สูงสุดถึง 9 ใบ ต่อครั้ง ต่อรูป ด้วยอัตราค่าบริการในประเทศใบละ 30 บาท และต่างประเทศใบละ 45 บาท ชำระค่าบริการผ่านบิลของเอไอเอส

นอก จากนี้ จุดเด่นของบริการ สมาร์ท ไอโปสการ์ด ไปรษณีย์ไทย ได้ใช้กระดาษที่ผลิตจากไม้ปลูก 100% เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถคำนวณค่าเปอร์เซ็นต์การลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในการผลิตสิ่งพิมพ์ โปสการ์ด 1 ใบ สามารถค่าคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ได้ 26.33% ด้วย