User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » Google+ vs facebook “ความนิยม+จำนวน” ไม่สำคัญเท่า “รายได้”
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

Google+ vs facebook “ความนิยม+จำนวน” ไม่สำคัญเท่า “รายได้”

Google เปิดตัว Social Network นาม Google+ (กูเกิล พลัส) อย่างเป็นทางการช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม ซึ่งนอกจากสร้างความกระหายอยากได้ใคร่รู้จักของสังคม และเกิดข่าวที่สื่อต่างๆ ผลิตออกมาอย่างมากมายแล้ว demo videos ภายใต้แคมเปญสั้นๆ ที่ใช้ชื่อว่า “A Quick Look” เผยแพร่ทาง YouTube ยังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ มีผู้เข้าชมสูงถึง 3.5 ล้านรายในสัปดาห์แรก และยังเพิ่มขึ้นอีก 52% ในสัปดาห์ต่อมา
ไม่ถึง 1 สัปดาห์ให้หลัง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร facebook แถลงถึงบริการแชตแบบกลุ่มใหม่ล่าสุด หรือ Video Calling เป็นผลจากความร่วมมือกับ Skype ถือเป็นการตอบโต้อย่างดุเดือดถึงพริกถึงขิง

นอกจากแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการแข่งขันด้านเทคโนโลยีที่จะไม่ลดราวา ศอกต่อกันอย่างแน่นอนแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจช่วงชิงการเป็น “ที่หนึ่งในใจ” ของผู้บริโภคในฐานะ Social Network ที่ดีที่สุดด้วย

Google+ ก้าวแรกที่ยังไม่เพลี่ยงพล้ำ

เป็นที่ทราบกันดีว่า แต่เดิมนั้น Social Network แบบ facebook ไม่เคยอยู่ในความสนใจของ Google ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการเป็น Search Engine อันดับ 1 ของโลกเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน

Google เริ่มให้ความสนใจ Social Network อย่างจริงจังช่วง 2-3 ปีหลังนี้เอง หลังจากมีข้อมูลน่าตกใจระบุว่า facebook มีจำนวนผู้ใช้เติบโตก้าวกระโดด รวมถึงผลสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้ออนไลน์ซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญที่ว่า ปีที่แล้ว ทุกๆ 13 นาทีที่ออนไลน์จะมีคนใช้ facebook 1 นาที เปลี่ยนเป็นทุกๆ 8 นาที ซึ่งหมายความว่า facebook มีส่วนแบ่งตลาดในโลกออนไลน์สูงขึ้น

รูปธรรมชัดเจนของการเข้าสู่สมรภูมิ คือการดึงตัว Vic Gundrota มาจากไมโครซอฟท์ เข้ามาเป็น Senior Vice President ด้าน New Project Development ดูแล Google+ โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ มีการเปิดตัวบริการอย่าง Google Wave และ Google Buzz สู่ตลาด แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมแต่อย่างใด
Circles มีลักษณะเหมือน facebook โดยผู้ใช้สามารถย้าย Contacts ต่างๆ ที่มีเช่นในอีเมลเข้าไปอยู่และกำหนดกลุ่ม เป้าหมายหลักของการสร้างบริการดังกล่าว คือ ผู้ใช้แชร์ทั้งเรื่องราว ข้อมูล ภาพ ฯลฯ ระหว่างกลุ่มเพื่อนได้ง่ายดาย นอกจากนั้นยังสามารถเพิ่มหรือนำเข้า Contacts จาก Yahoo และ Microsoft ได้ด้วย

Sparks เหมือนกับ Share ของ facebook ส่วนที่เพิ่มคือ สามารถเลือกได้ถึง 40 ภาษา นอกจากนั้นผู้ใช้สามารถเลือกประเด็นที่สนใจ ระบบก็จะส่ง Content ที่อยู่ในขอบข่ายที่กำหนดให้ต่อเนื่องตลอดเวลา

Hang out การแชร์ Content ภายในกลุ่มพร้อมๆ กัน เป็นการสร้างประสบการณ์ร่วม

Huddle เป็นบริการ Group Messaging ส่งข้อความไปยังกลุ่มเพื่อน ชักชวนทำเรื่องต่างๆ ร่วมกัน

การตอบโต้ของ facebook

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร facebook กล่าวว่า ทุกวันนี้มีการแชร์สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ ภาพ ลิงก์ บน facebook ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านครั้งต่อวัน ขณะที่บริการล่าสุดสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ ใช้

บริการใหม่มี 3 Function ที่สำคัญ คือ Group Chat เป็นผลจากการสำรวจพฤติกรรม พบว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่ชอบแชตผ่านหน้าเว็บโดยตรง facebook จึงออกแบบให้ผู้ใช้สร้างวงสนทนาใหม่ได้โดยไม่จำเป็นต้องสร้างห้อง Chat ขึ้นมาก่อน

นอกจากนั้นแถบ Chat ก็มีการออกแบบใหม่ โดยแสดงส่วนของคนที่กำลังออนไลน์ชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับคนที่ Chat ด้วยบ่อยๆ ให้เรียกใช้ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม จุดเด่นที่สุดของบริการใหม่ คือ Video Chat โดยลง Plug in เสริมไปใน Browser ที่ใช้งาน การสนทนาก็จะเปลี่ยนเป็นวิดีโอแบบ 1 ต่อ 1 นอกจากนี้ สีสันที่เพิ่มเข้ามาก็คือ ถ้าคู่สนทนาไม่อยู่ ก็ฝากวิดีโอทิ้งไว้ให้เปิดดูได้เช่นกัน

ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ถือเป็นความท้าทายใหญ่หลวงของ Google เพราะเป็นที่เข้าใจโดยทั่วไปว่า มีผู้ใช้มากกว่า 700 ล้านรายทั่วโลก ที่สร้างสังคมแห่งหนึ่ง คุ้นเคย ให้ความรู้สึกเป็นเจ้าของอยู่บน facebook มานานแล้ว กล่าวได้ว่า เป็นเรื่องยากไม่ต่างจาก “เข็นครกขึ้นภูเขา” กับการทำให้ผู้ใช้ย้ายที่ หรือสร้างสังคมแห่งใหม่ ความท้าทายยิ่งใหญ่ที่กำลังตามมา ก็คือ การสร้างรายได้ ปัจจุบัน facebook มี Company Page เป็นแกนสร้างรายได้จากการโฆษณาแบบเป็นกอบเป็นกำ ขณะที่ Google ที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Ford Motor แสดงความจำนงว่า อยากให้สร้างสิ่งที่เรียกว่า Business Page รองรับเรื่องดังกล่าว

Christian Oestlien หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้สัมภาษณ์ Advertising Age ในประเด็นข้างต้นว่า หลังเปิดตัวเพียง 9 วัน ก็มีบริษัทมากมายหลายพันแห่แสดงความสนใจ ส่งใบสมัครเพื่อเข้าร่วมขั้นตอน “ทดสอบ” หรือ Test Phase เกี่ยวกับการโฆษณาบน Google+

เบื้องต้นนอกจาก Ford แล้ว ก็มีบริษัทยักษ์ใหญ่เช่น MTV Dell ฯลฯ โดยกระบวนการดังกล่าวจะสรุปรายชื่อบริษัทและองค์กรที่เข้าร่วมขั้นตอนนี้ภาย ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.