User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » ซีแมชควบกิจการฟูลคัลเลอร์ ชิงผู้นำ70%ตลาดหมึกพิมพ์
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

ซีแมชควบกิจการฟูลคัลเลอร์ ชิงผู้นำ70%ตลาดหมึกพิมพ์

ซีแมชควบกิจการฟูลคัลเลอร์ ชิงผู้นำ70%ตลาดหมึกพิมพ์ เล็งทุ่มงบ 200 ล้านบาทเปิดโรงงานผลิตหมึก 30 แห่งทั่วโลก

“ซีแมซ” ควบรวมกิจการฟูลคัลเลอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุยทางลุยตลาดหมึกพิมพ์ทุกเซ็กเมนท์ ชิงแชร์ 70% เล็งทุ่มอีก 200 ล้านบาทจับมือคู่ค้านอกประเทศขยายโรงงานผลิตหมึกอีก 30 แห่งทั่วโลก หวังสิ้นปีโต 40%

นายพีรศักดิ์ ทองนรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ซีแมช คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทบรรลุข้อตกลงเข้าซื้อกิจการ บริษัท ฟูลคัลเลอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตหมึกพิมพ์อันดับ 2 ของตลาด มูลค่า 50 ล้านบาท มีผลอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ก.ค.2554 ซึ่งการควบรวมกิจการจะส่งผลให้บริษัทแข่งแกร่งมากขึ้นจากการร่วมมือกันพัฒนา นวัตกรรม การต่อรองราคาวัตถุดิบสำหรับการผลิต กลายเป็นผู้นำตลาดหมึกพิมพ์ประเภทตลับหมึกเทียบ และหมึกสำหรับเติมกับแทงก์ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 70% จากมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน ตลาดรวมหมึกพิมพ์ไทย มีมูลค่าปีละ 2 หมื่นล้านบาท จากนี้ไปบริษัทเตรียมผลักดันสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้นผ่านมาตรฐาน ม.อ.ก. พร้อมชูจุดแข็งราคาถูกกว่า 30% เจาะตลาดคอนซูเมอร์และภาครัฐที่ทีโออาร์ระบุไว้ว่าต้องใช้หมึกของแท้เท่า นั้น และมีแผนเพิ่มสายผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ที่สามารถพิมพ์ลงบนผืนผ้าได้ เจาะลูกค้าเอสเอ็มอี และอุตสาหกรรมสิ่งทอ

พร้อมกันนี้ บริษัทได้ปรับโครงสร้างโดยรวมศูนย์การบริหารและโอนย้ายพนักงาน รวมถึงคณะผู้บริหารทั้งหมดเข้ามาอยู่รวมกันเป็นบริษัทเดียว 350 คน แบ่งธุรกิจ 3 หน่วยเหมือนเดิมคือ 1. หมึกพิมพ์ 2. อุปกรณ์เสริมสำหรับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ดิจิทัล และ 3.พรินเตอร์ เซอร์วิส วางงบการตลาดรวมในไทยปีนี้ไว้ 90 ล้านบาท และเพิ่มความแข็งแกร่งด้านช่องทางจำหน่ายครอบคลุมทั้งร้านค้าไอที มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า และโมเดิร์นเทรด จากดีลเลอร์ที่มีกว่า 4 พันราย

ทั้งยังมีแผนใช้งบลงทุนอีก 200 ล้านบาทขยายโรงงานผลิตหมึกพิมพ์ร่วม กับคู่ค้าใน 30 ประเทศทั่วโลก โดยจะเริ่มจากประเทศที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีก่อน เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ซาอุดิอาระเบีย และดูไบ หวังว่าจากสัดส่วนรายได้ในประเทศไทยเทียบกับต่างประเทศที่มี 85 ต่อ 15% จะเปลี่ยนเป็น 70 ต่อ 30%

นอกจากนี้ บริษัทได้ร่วมมือบริษัทในประเทศจีนเตรียมเปิดตัวเลเซอร์ พรินเตอร์แบรนด์ใหม่ “แพนทัม (Pantum)” 3 รุ่น ภายในเดือน ก.ค-ต.ค. และจะเปิดตัวอีก 2 รุ่นทุกๆ ไตรมาส ราคาเริ่มต้น 2 พันบาทแต่ประหยัดหมึกกว่าสินค้าในตลาดปัจจุบัน 20% ตั้งเป้ายอดขายเดือนละ 2-3 พันเครื่อง ปี 2555 หวังจะโตขึ้น 2 เท่า

อีกทั้ง บริษัทมีแผนขยายตลาดอุปกรณ์เสริมสำหรับคอมพิวเตอร์และแกดเจ็ททั้งตลาดต่าง ประเทศ และไทยที่มีมูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท ชิงส่วนแบ่งตลาดให้ได้ 25% ในปีหน้า จากปัจจุบันมี 3-5% สานแผนการเพิ่มรายได้ให้ได้ตามเป้า ทั้งจะเพิ่มทุนจดทะเบียนจากปัจจุบัน 88 ล้านบาท เป็น 130 ล้านบาทภายใน 22 ก.ค. ต้นปี 2555 เป็น 160 ล้านบาท และ 190 ล้านบาทภายในไตรมาสที่ 1 เพื่อจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.