หัวเว่ยลุ้นกวาดแท็บเล็ตเพื่อไทย มั่นใจเลือกสั่งได้ตามสเปกและงบ
’หัวเว่ย“ ขานรับนโยบายแจกแท็บเล็ตเด็กนักเรียน พร้อมโดดร่วมชิงเค้กก้อนโต ชี้มีผลงานทำตลาดแท็บเล็ตในยุโรป ’งบ-สเปก“ สั่งได้ พร้อมประกาศตั้งแวลลูซิสเตมส์เป็นตัวแทนจำหน่าย เจาะตลาดเอ็นเตอร์ไพร์ซ
นายแจ็ค เฉิน ผู้อำนวยการ ฝ่ายกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพร์ซ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้งให้บริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว เพื่อให้สินค้าและอุปกรณ์ของหัวเว่ยกระจายไปยังผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ทั้งโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตเพื่อให้เข้าถึงตลาดกลุ่มองค์กรได้อย่างเต็ม ที่ ซึ่งเป็นการตั้งตัวแทนจำหน่ายครั้งแรกนับตั้งแต่ตั้งบริษัทในไทยเมื่อปี พ.ศ. 2542
“เดิมหัวเว่ยอยู่ในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมเป็นหลัก ซึ่งมีผู้ประกอบการเพียงไม่กี่ราย แต่เมื่อหัวเว่ยเข้ามาทำตลาดเอ็นเตอร์ไพร์ซ ซึ่งมีลูกค้าที่ต้องเข้าไปติดต่อเป็นหมื่นราย การมีพันธมิตรทางธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยติดต่อประสานงานกับลูกค้า โดยเฉพาะการใช้เครือข่ายของพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับภาค รัฐและเอกชน ซึ่งจะช่วยเพิ่มลูกค้ารายใหม่” นายแจ็ค กล่าว
นายแจ็ค ระบุว่า ในปีนี้ลูกค้ากลุ่มภาครัฐ ภาคการศึกษาและองค์กรที่ให้บริการสาธารณูปโภค อาทิ การไฟฟ้า การประปา ระบบรถไฟฟ้า เป็นตลาดเป้าหมายสำคัญ ก่อนจะขยายเข้าสู่ตลาดเอสเอ็มอีในอนาคต โดยตั้งเป้ารายได้สำหรับกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพร์ซในไทยปีนี้ไว้ที่ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเพิ่งตัดสินใจปรับโครงสร้างใหม่ทั่วโลก โดยแยกหน่วยงานรับผิดชอบด้านธุรกิจเอ็นเตอร์ไพร์ซอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
ส่วนนโยบายของรัฐบาลใหม่มีหลายโครงการที่น่าสนใจ อาทิ การเพิ่มอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ผ่านโครงข่ายบรอดแบนด์ และไวไฟ ขณะที่โครงการแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนทางหัวเว่ยก็สนใจจะเข้าร่วมเสนอราคา ด้วย เนื่องจากมีความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีและฮาร์ดแวร์ เพราะสามารถปรับคุณสมบัติของเครื่อง (สเปก) ให้สอดคล้องกับความต้องการของภาครัฐได้ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมทั้งเรื่องของงบประมาณ เนื่องจากหัวเว่ยผลิตแท็บเล็ตออกวางตลาดหลายรุ่นแล้ว ส่วนใหญ่ได้รับความนิยมในแถบยุโรป เช่น แท็บเล็ตรุ่นมีเดียแพด ซึ่งเป็นตัวแรกในตลาดที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.2 หากภาครัฐต้องการแท็บเล็ตสำหรับนักเรียนพร้อมโปรแกรมการเรียนการสอน (คอร์สเวิร์ค) ในงบ 5,000 บาทต่อคน ก็สามารถดำเนินการได้.