User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » "บีบี"ส่งรุ่นประหยัด5,900บาทตีตลาด สมรภูมิสมาร์ทโฟนเดือดค่ายยักษ์ทุบราคาชิงแชร์
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

"บีบี"ส่งรุ่นประหยัด5,900บาทตีตลาด สมรภูมิสมาร์ทโฟนเดือดค่ายยักษ์ทุบราคาชิงแชร์

ตลาด สมาร์ทโฟนร้อนแรง กินส่วนแบ่ง 35% ของตลาดมือถือ เผยครึ่งปีหลังค่ายยักษ์เปิดสงครามราคา "ซัมซุง" ทุบราคา "กาแล็คซี่ มินิ" ลงมาอยู่ที่ 4,990 บาท ขณะที่ "แอลจี" ปรับราคา Optimus Me เหลือ 5,390 บาท จับตาปลายไตรมาส 3 แบล็คเบอร์รี่คลอดรุ่นโลว์เอนด์ 5,900 บาท เขย่าตลาดจับกลุ่มเด็กวัยรุ่นชอบแชต


นายไพโรจน์ ถาวรสภานันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีจีโฟน จำกัด ผู้แทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ทิศทางตลาดมือถือในครึ่งปีหลังปีนี้ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี เพราะแนวโน้มราคา สมาร์ทโฟนลดลง ปัจจุบันราคาสมาร์ทโฟนที่ขายดีเฉลี่ยอยู่ที่ 9,500-15,000 บาท จากปีที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ราคาเกือบ 2 หมื่นบาท และมีการรีเพลสสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่มีความเร็วมากขึ้น เช่น ดูอัลคอร์ เป็นต้น

นอกจากนี้ หาก 3จี เปิดให้ใช้บริการในช่วงไตรมาส 3 จริง คาดว่าจะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ตลาดมือถือและแท็บเลตโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก และทำให้ตลาดรวมมือถือปีนี้มีจำนวนมากกว่า 12 ล้านเครื่อง มูลค่าประมาณ 4.8 หมื่นล้านบาท โดยที่ราคามือถือเฉลี่ยอยู่ที่เครื่องละ 4 พันบาท

โดย ในครึ่งปีหลังพบว่า แบรนด์ต่าง ๆ ต้องการขยายตลาดไปจับกลุ่มผู้ใช้ฟีเจอร์โฟนเดิมให้หันมาใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น และเจาะกลุ่มวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา ทำให้อินเตอร์แบรนด์เริ่มสไลด์ราคาสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าลงมาอยู่ที่ประมาณ 4,900-5,900 บาท เช่น เดือนที่ผ่านมา ซัมซุง ปรับราคา กาแล็คซี่ มินิ เหลือ 4,990 บาท จากเดิมราคา 5,990 บาท และแอลจี ปรับราคารุ่น Optimus Me เหลือ 5,390 บาท จากเดิมอยู่เกือบ 6 พันบาท เป็นต้น

ขณะที่สมาร์ทโฟนเฮาส์ แบรนด์ก็ปรับราคาลงเช่นกัน โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3,000-4,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่จะมีราคาต่ำกว่าอินเตอร์แบรนด์ประมาณ 1,000 บาท

นาย ไพโรจน์กล่าวว่า ช่วงปลายไตรมาส 3 คาดว่าแบล็คเบอร์รี่จะเปิดตัวรุ่นใหม่ ราคาประมาณ 5,900 บาท เน้นการใช้งานแชตเป็นหลัก จากปัจจุบันราคาแบล็คเบอร์รี่ต่ำสุดในตลาดคือ รุ่น Curve 8520 ราคา 6,900 บาท เนื่องจากการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กในไทยเป็นตลาดใหญ่มาก แบล็คเบอร์รี่จึงนำเครื่องราคาถูกเข้ามาเพื่อขยายฐานผู้ใช้งานให้กว้างมาก ขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งราคามีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า รวมทั้งแผนการบันเดิลแพ็กเกจค่าบริการที่ถูกลง เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดจำหน่ายให้ถึง 1 ล้านเครื่องภายในปีนี้ จากปัจจุบันยอดขายแบล็คเบอร์รี่ประมาณ 7-8 หมื่นเครื่องต่อเดือน

"เท รนด์ของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ราคาระดับกลางมีมากขึ้น และแบล็คเบอร์รี่ราคา 5,900 บาท คาดว่าจะช่วยให้ครึ่งปีหลังตลาดสมาร์ทโฟนขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 5-8% จากสัดส่วนประมาณ 30% ในปัจจุบัน โดยไปกินตลาดฟีเจอร์โฟน เช่น โนเกีย ซัมซุง เป็นต้น"

นายไพโรจน์กล่าวอีกว่า ขณะที่ภาพรวมตลาดครึ่งปีแรกจากรายงานจีเอฟเค มีจำนวนมือถือประมาณ 1.1 ล้านเครื่องต่อเดือน แต่ความจริงคาดว่าจะสูงถึง 1.2-1.5 ล้านเครื่อง โดยสมาร์ทโฟนมีสัดส่วนประมาณ 28-31% ของตลาดรวมมือถือทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่ผ่านมา มีสัดส่วนประมาณ 25% ปัจจัยการเติบโตหลัก ๆ มาจากสมาร์ทโฟนและแท็บเลตที่ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง ทำให้ราคามือถือโดยเฉลี่ยปีนี้ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท จากปีที่แล้วราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000 บาท

ขณะที่ตลาดรวมมือถือปีนี้ ช่วงราคา 1,500-4,000 บาท มีสัดส่วนมากที่สุดประมาณ 50% รองลงมาคือ 10,000-15,000 บาท ประมาณ 20% โดยสินค้าที่ได้รับความนิยม อาทิ ไอโฟน4, แบล็คเบอร์รี่ 8520 และ รุ่น 9780, ซัมซุงกาแล็คซี่ S, กาแล็คซี่ คูเปอร์, กาแล็คซี่ แท็บ เป็นต้น ส่วนฟีเจอร์โฟน คือ โนเกียตระกูล C ซีรีส์เป็นหลัก ขณะที่เฮาส์แบรนด์ก็จะเป็นไอโมบาย และจีเนท

"ช่วงครึ่งปีแรกพบว่า ราคาเฉลี่ยสินค้าของโนเกียลดลงจากเดิมประมาณ 6,000 บาท เหลือประมาณ 3,000-4,000 กว่าบาท เพราะลูกค้าซื้อมือถือที่ใช้ซิมเบี้ยนน้อยลง ก็ต้องรอดูครึ่งปีหลังว่าโนเกียจะมีอะไรออกมา"

โดยรายงานข่าวล่าสุด ระบุว่า โนเกียได้ประกาศปรับราคาสมาร์ทโฟนหลายรุ่นลง 15% ในตลาดยุโรป และคาดว่าจะมีผลต่อตลาดประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้

นายไพโรจน์กล่าวเพิ่ม เติมอีกว่า ทีจีโฟนไดเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บ เลตเช่นกัน โดยปลายปีที่ผ่านมาได้ปรับภาพลักษณ์ของร้านค้า เพื่อโฟกัสการขายสมาร์ทโฟนและแท็บเลตมากขึ้น และให้คอนซูเมอร์สามารถทดลอง สัมผัสสินค้าได้ มีคนขายที่มีความรู้ โดยปัจจุบันกำลังทยอยปรับช็อปใน กทม. ประมาณ 9 แห่ง เพื่อให้เป็น คอนเซ็ปต์เดียวกัน
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.