|
|
|
|
ข่าว |
|
|
|
|
|
ไทยฮิต "สมาร์ทโฟน จุดพลุ "มาร์ตเก็ตติ้ง ออน โมบาย"
จากจำนวนผู้ใช้ โทรศัพท์มือถือ 100 คนในไทย พบว่าเป็นประเภท "สมาร์ทโฟน" หรือโทรศัพท์ที่มีคุณสมบัติทำงานใกล้เคียงคอมพิวเตอร์ทั่วไป 18 คน
จากจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 100 คนในไทย พบว่าเป็นประเภท "สมาร์ทโฟน" หรือโทรศัพท์ที่มีคุณสมบัติทำงานได้ใกล้เคียงคอมพิวเตอร์ทั่วไป 18 คน ซึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่ว โลกที่มีสัดส่วนอยู่ราว 30% อาจเป็นตัวเลขที่ยังห่างไกล แต่เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของผู้ใช้ที่มากกว่าคำว่า "ก้าวกระโดด" อนาคตของธุรกิจที่ผูกติดกับกระแสของสมาร์ทโฟนจึงดูคึกคักมากเป็นพิเศษ
ผล สำรวจพฤติกรรมผู้ใช้มือถือ 48,000 คนจาก 58 ประเทศรวมไทยโดย "ทีเอ็นเอส" บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดในเครือกันตาร์ หนึ่งในเครือข่ายด้านข้อมูลเชิงลึกและคำปรึกษาทางการตลาดแถวหน้าของโลกยังพบ สถิติที่น่าสนใจว่า ผู้ใช้มือถือทั้งแบบพรีเพด (เติมเงิน) และโพสต์เพด (รายเดือน) ต่างก็นิยมใช้การรับส่งข้อมูลผ่านมือถือ โดย 61% ของผู้ถูกสำรวจยินดีที่จะจ่ายค่าใช้บริการดังกล่าว
รอวัน 3จี-สมาร์ทโฟนพร้อม
ทั้ง นี้เนื่องจากมือถือเริ่มกลายเป็นเครื่องมือที่อยู่ติดตัวคนตลอดทั้งวันและมี กิจกรรมต่างๆ ที่ทำผ่านมือถือนอกเหนือจากการสื่อสารด้วยเสียงเหมือนที่ผ่านมา เช่น ใช้อินเทอร์เน็ต, ฟังเพลง และเล่นเกม ซึ่งเมื่อเจาะลึกข้อมูลเฉพาะประเทศไทยพบว่า คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ 30% เทียบกับใช้ผ่านพีซีที่บ้าน 69%, พีซีที่ทำงาน 23%, ร้านอินเทอร์เน็ต คาเฟ่ 27% และแทบเล็ต 1% เจ้าของสมาร์ทโฟนในไทย 19% เป็นชาย, 18% เป็นหญิง ส่วนใหญ่ หรือราว 21% มีอายุเฉลี่ย 16-21 ปี
นาง สาวฟิโอนา บูคาแนน ผู้จัดการการพัฒนาภาคธุรกิจเทคโนโลยีและดิจิทัลกลุ่มบริษัททีเอ็นเอส กล่าวว่า เหตุที่เปอร์เซ็นต์การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือของคนไทยยังต่ำกว่าเมื่อ เทียบกับการใช้ผ่านพีซี เพราะไทยกำลังอยู่ในช่วงที่คนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟน ซึ่งเมื่อถึงวันที่เทคโนโลยีสำคัญ ทั้งตัวเครื่อง (ที่มีฟีเจอร์และราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น) และเครือข่ายพร้อมให้บริการได้อย่างครอบคลุมการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ ของคนไทยจะยิ่งก้าวกระโดดมากขึ้นเหมือนกับหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น เกาหลีที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือสูงถึง 63%
"แอลบีเอส" กำลังมา
อย่างไรก็ตามแม้ ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ที่ผู้ใช้มือถือไทยจะนิยมใช้จะอยู่ในหมวดเพื่อความบันเทิง เป็นส่วนใหญ่ เช่น ใช้ฟังเพลง, ดูคลิปวิดีโอ, โซเชียล เน็ตเวิร์ค และแชท แต่ความสนใจที่มีต่อบริการเพื่อความสะดวกสบายอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอพพลิเคชั่นประเภทบอกตำแหน่ง หรือ "โลเคชั่น เบส เซอร์วิส (แอลบีเอส)" กำลังขึ้นแท่นแอพที่เติบโตมากที่สุด ปัจจุบันไทยมีสัดส่วนผู้ใช้บริการแอลบีเอสต่ำเพียง 4% แต่มีผู้ต้องการที่จะใช้งานในอนาคตสูงถึง 66%
"บริการแอลบีเอสที่ ฮอตๆ ในไทยตอนนี้ก็เช่น โฟร์สแควร์ และเฟซบุ๊ค เพลส ซึ่งคนเริ่มสนใจใช้มากกว่าเป็นบริการบอกทาง แต่ยังเป็นช่องทางรับข้อมูลทางการตลาดที่สนใจ เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร และยังรู้ความเคลื่อนไหวของเพื่อนว่าเช็คอินอยู่ที่ไหนบ้าง เพราะโฆษณาทางมือถือจะพ่วงมาด้วยข้อเสนอที่อยู่ใกล้จุดที่อยู่ในขณะนั้น"
เธอ ระบุว่า กระแสดังกล่าวกำลังกลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังที่จะทำให้นักการ ตลาดใช้เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
สนเครื่องใหม่จ่ายแพงกว่าเดิม
ขณะที่ปัจจัยที่จะกระตุ้นให้ตลาดสมาร์ทโฟนและ ความต้องการใช้แอพพลิเคชั่นเพื่อความสะดวกสบายจะยิ่งเติบโตมากขึ้นคือ การครอบคลุมของเครือข่าย 3จี และเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย หรือไวไฟที่กำลังเกิดขึ้นในไทย
นอกจากนี้ยังรวมถึงราคา "ดาต้า แพลน แพ็คเกจ" ที่ปัจจุบันยังมีราคาสูง หากอนาคตมีผู้ใช้บริการมากขึ้นและทำให้ราคาค่าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านมือ ถือต่ำลงได้อีกก็จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการใช้บริการที่หลากหลายผ่านมือถือมาก ขึ้น
ทั้งนี้ยังสอดคล้องกับแนวโน้มการซื้อมือถือเครื่องใหม่ซึ่งผลสำรวจพบว่า ผู้ใช้มือถือไทยมีแผนจะซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ราคาเฉลี่ยที่ 257 ดอลลาร์ (7,000-8,000 บาท)
"คน ใช้ดาต้าบนมือถือยิ่งใช้แล้วก็ยิ่งติด ดังนั้นข้อมูลที่ออกมาจึงพบว่าถ้าซื้อเครื่องต่อไปก็ยินดีจะจ่ายเงินเพิ่ม ขึ้น เพราะหวังว่ามือถือจะมีลูกเล่นเยอะขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสของบริการใหม่ๆ ที่นิยมแล้วในต่างประเทศ โดยเฉพาะบริการโมบาย เปย์เมนท์ และบริการประเภทคิวอาร์ โค้ดที่เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่การใช้บริการห้างร้านต่างๆ ด้วยใช้เช็คข้อมูลบริการหรือราคาของสิ่งของต่างๆ ได้ก่อนเดินไปซื้อหาจริง และไม่จำเป็นต้องพกเงินสดจำนวนมาก"
บูคาแนนสรุปว่า แบรนด์ โดยเฉพาะในกลุ่มคอนซูเมอร์ โปรดักส์ที่ต้องการจะใช้มือถือเป็นช่องทางสร้างการเติบโตให้ธุรกิจจึงควร ต้องมี "โมบาย โซลูชั่น" ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และยังควรต้องอิงกับกลยุทธ์ที่มีอยู่หน้าร้านด้วย โดยต้องไม่ลืมปัจจัยสำคัญทั้งความสะดวกสบาย, อิสรภาพ, ความรู้สึกเกี่ยวข้อง, ความโปร่งใส และสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้มือถือ
ทั้งนี้เพราะผลลัพธ์ที่ได้นอกจากจะสร้างการรับรู้ในแบรนด์แล้วยังเป็นช่องทางใหม่สำหรับการสร้างรายได้ให้การเติบโตของธุรกิจยุคที่สมาร์ทโฟนเริ่มครองเมือง
|
|
|
|
|