User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » ซอฟต์แวร์พลังงานเติบโตพุ่ง 1.5 พันล้าน
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

ซอฟต์แวร์พลังงานเติบโตพุ่ง 1.5 พันล้าน

นีออน อินโฟเทค ประเมินตลาดซอฟต์แวร์วิศวกรรมปิโตรเคมี และพลังงานในไทยเติบโต 20% ทุกปี เชื่อหากรัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพตลาดจะโตได้ไม่หยุด

เดิน หน้าลงทุนเพิ่มบุคลากร-แตกไลน์โปรดักท์ใหม่ ตั้งเป้าปี 2554 ยึดเบอร์ 1 หวังเติบโตได้อีก 50% เล็งขยายตลาดสู่พม่าปี 2555 พร้อมแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์อีก 5 ปี

นายฮัช แวดแฮน เศรษฐี ประธานบริษัท นีออน อินโฟเทค เซาท์อีสท์ เอเชีย จำกัด ผู้ประกอบการด้านซอฟต์แวร์โซลูชั่นด้านวิศวกรรม กล่าวว่า ความเป็นไปได้ของมูลค่าตลาดซอฟต์แวร์ด้านวิศวกรรมในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และพลังงานไทย มีโอกาสสูงถึง 50 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท แต่มูลค่าจริง ณ ปัจจุบันน้อยกว่าจำนวนดังกล่าว เนื่องจากตลาดเติบโตแบบช้าๆ ต้องใช้เวลาพัฒนาและให้ความรู้กับตลาด โดยในภาพรวมแต่ละปีเติบโตประมาณ 20%

เขากล่าวว่า หากรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศมีเสถียรภาพ สามารถควบคุมให้สถานการณ์ในประเทศอยู่ในภาวะปกติไม่เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรง อุตสาหกรรมนี้จะเดินหน้าไปได้ และเติบโตต่อเนื่อง อีกประเด็นที่สำคัญ คือ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดขณะนี้มีพื้นที่จำกัด รัฐต้องมีนโยบายที่ชัดเจนออกมาว่าจะขยับขยายไปทางใด

โดยปีนี้ บริษัทวางแผนใช้งบประมาณ 5-7 ล้านบาทลงทุนด้านบุคลากร และพัฒนาสายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น ระบบบัญชี การบริหารจัดการเวิร์คโฟล์วภายในองค์กร และการซ่อมบำรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งเป้าในปี 2555 จะเข้าไปตั้งออฟฟิศแห่งใหม่ในประเทศพม่าเพื่อขยายตลาดให้กว้างขึ้น ซึ่งขณะนี้ เริ่มเข้าไปสำรวจตลาดบ้างแล้ว

ขณะที่ แผนการตลาดยังคงยึดรูปแบบการเข้าหาลูกค้าโดยตรง และให้ความรู้เพื่อให้ลูกค้าหันมาใช้ระบบใหม่แทนระบบเดิมปัจจุบันมีผู้เล่น ประมาณ 10 รายแต่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง ต่างกับบริษัทที่เป็นเบอร์ 1 มีสายผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการได้แบบครบวงจร โดยเมื่อปี 2553 บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 60% ในซอฟต์แวร์ประเภท การเชื่อมต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรกลมีส่วนแบ่งกว่า 95% ปีนี้ตั้งเป้าเติบโตกว่า 35-50% มีรายได้ 3.25-3.5 ล้านดอลลาร์ จากปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้ 2.5 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ ยังตั้งงบตลาดไว้ 2% ของยอดขาย เน้นการทำตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์เป็นหลัก กลุ่มเป้าหมาย เน้นอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และพลังงาน ปัจจุบันกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ประกอบไปด้วย บริษัทในเครือ ปตท. ปูนซิเมนต์ไทย ไทยออยล์ และผู้รับเหมารายใหญ่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ในภูมิภาคเอเชียไทยมียอดขายอันดับหนึ่ง รองลงมา คือ ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย และเวียดนาม ตามลำดับ

พร้อมระบุว่า ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 7 ล้านดอลลาร์ ภายใน 4-5 ปีนี้เตรียมเดินหน้ารุกตลาดเต็มรูปแบบ รวมถึงพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ให้ได้

นายฮัช กล่าวเสริมว่า การพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัทมีความแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ เพราะระบบวิศวกรรมด้านปิโตรเคมีและพลังงาน มีความละเอียดมากจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ทั้งด้านวิศวกรรมและซอฟต์แวร์ ที่สามารถใช้งานได้ครอบคลุมในทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง จึงไม่กังวลว่าจะมีคู่แข่งรายอื่นเข้ามาตีตลาดได้ในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมปิโตรเคมีของไทยยังไม่มีศักยภาพมากพอ ส่วนใหญ่ต้องให้บริษัทจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ เกาหลี หรือญี่ปุ่นเข้ามาจัดทำระบบให้ โดยบริษัทกำลังพยายามเข้าไปสร้างความสัมพันธ์กับมหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆ เพื่อช่วยพัฒนาหลักสูตรให้นิสิต นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ที่เรียนจบออกมามีคุณภาพมากขึ้น สามารถออกแบบและพัฒนาระบบแขนงนี้ได้ตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้น
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.