"แคนนอน" เผยรายได้ธุรกิจปีนี้หดเหลือ 8,300 ล้านบาท พิษน้ำท่วมโรงงานทำสินค้าขาดตลาด ยันเดินหน้าลงทุนต่อ

"แคนนอน" เผยคาดการณ์รายได้รวมธุรกิจปีนี้หดเหลือ 8,300 ล้านบาท พิษน้ำท่วมโรงงานทำสินค้าขาดตลาด แต่ยันยังเดินหน้าลงทุนไทยต่อ ล่าสุดเปิดให้พนักงานที่อยุธยาทำงานได้แล้ว พร้อมย้ำความมั่นใจเศรษฐกิจไทย-กำลังซื้อ ปักธงทำรายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาทปีหน้า ด้านอินเทลชี้ปี55 ธุรกิจหนุนตลาดพีซีเติบโตสูง

นายวาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขายเหลือราว 8,300 ล้านบาทจากเดิมที่คาดว่าจะทำยอดขายเติบโตได้ 20% หรือมีรายได้ 9,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมโรงงานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่เป็น ที่ตั้งของโรงงานผลิตเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท และสแกนเนอร์ของแคนนอน และน้ำท่วมพื้นที่ทั้ง 100% ทำให้บริษัทผลิตสินค้าไม่ได้

อย่าง ไรก็ตามบริษัทได้เร่งการผลิตที่โรงงานสำรองในจังหวัดนครราชสีมา ที่เพิ่งเริ่มเปิดเดินเครื่องผลิตได้เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งโรงงานอีกแห่งที่เวียดนามเพื่อช่วยจัดส่งสินค้าให้ได้ตามความต้องการ ตลาด

ส่วนโรงงานที่อยุธยาได้เข้าไปซ่อมแซมเครื่องจักร พร้อมทั้งให้พนักงานเริ่มเข้าทำงานได้ตั้งแต่วานนี้ (19 ธ.ค.) แต่ยังต้องรอการประเมินความเสียหายและแผนการฟื้นฟูต่างๆ คาดว่าจะทราบผลช่วงเดือน ม.ค.2555

"เราไม่ได้คิดจะย้ายการผลิตไปที่ อื่น โดยวานนี้เราก็ให้พนักงานเข้าไปทำงานได้แล้ว ซึ่งแม้โรงงานหลักจะมีปัญหาในการผลิต แต่ก็ยังมีโรงงานสำรองอีก 2 แห่งที่ช่วยซัพพอร์ตสินค้าให้ แต่ก็แน่นอนว่าต้องได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน แต่เราก็ยังเชื่อในศักยภาพของไทย ทั้งความสามารถในการเติบโตของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของประเทศเอง" นายนิชิโอกะกล่าว

พร้อมกันนี้เขาคาดว่า ปีหน้าแคนนอนจะ เติบโตได้มากกว่า 20% เป็นครั้งแรก และทำรายได้ถึง 10,000 ล้านบาท โดยประเมินจากตลาดที่ย่ำแย่ในปีนี้ แต่บริษัทก็ยังสร้างการเติบโตได้ถึงหลัก 10% โดยเฉพาะรายได้จากกลุ่มกล้องซึ่งมีสัดส่วนรายได้ราว 50% และเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท 35%

นายวรินทร์ ตันติพงศ์พานิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บริษัทเดียวกัน กล่าวว่า ตลาดเครื่องพิมพ์โดยรวมของแคนนอนยังรักษาการเติบโตเป็นอันดับหนึ่งติดต่อกัน 12 ปี และคาดว่าปีนี้ก็จะยังรักษาตำแหน่งดังกล่าวได้

ทั้งนี้แม้ว่าบริษัทจำเป็นต้องเลื่อนแผนการตลาดต่างๆ รวมถึงแคมเปญใหญ่ "แคนนอน พิกซ์ม่า คลาวด์ พรินท์ติ้ง" ที่เดิมจะต้องเริ่มแคมเปญเมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมา แต่ติดปัญหาน้ำท่วมทำให้ใช้งบไปได้แค่ 30-40% จาก 120 ล้านบาท

ผู้บริหารแคนนอนเผยว่า พิกซ์ม่า คลาวด์ พรินท์ติ้ง จะเป็นไฮไลต์ของธุรกิจเครื่องพิมพ์ของแคนนอนปี หน้า โดยชูความสามารถการพิมพ์ผ่านอุปกรณ์ได้หลากหลานิด เช่น สมาร์ทโฟน, สมาร์ท ดีไวซ์ และแล็ปท้อป รวมทั้งการพิมพ์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น กูเกิล คลาวด์ พรินท์ และแอ๊ปเปิ้ล แอร์พรินท์

ล่าสุด เปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น เลเซอร์ พร้อมไวไฟ ครอบคลุมตั้งแต่รุ่นเล็กจนถึงรุ่นใหญ่พร้อมกัน 6 รุ่น และเครื่องเลเซอร์พรินเตอร์ขาวดำอีก 4 รุ่น เช่น เอ็มเอฟ5980 ดีดับบลิว

"ถ้า ทุกอย่างเริ่มเข้าที่ มีสินค้าเข้าสู่ตลาดเพียงพอ เราก็คงจะกลับมาทำตามแผนที่วางไว้ ซึ่งเรายังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเป็นช่วงไหนของปี แต่ก็เตรียมแผนไว้แล้วทั้งการโปรโมทแคมเปญคลาวด์ พรินท์ ที่มีโดม ปกรณ์ ลัม มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด และทำภาพยนตร์โฆษณาภายใต้คอนเซปท์ Across the Sky ที่สะท้อนความสามารถในการพิมพ์ข้ามประเทศของเครื่องพิมพ์แคนนอน"

เขายังคาดอีกว่า ธุรกิจเครื่องพิมพ์ของแคนนอนปี 2555 จะเติบโตได้อย่างน้อย 13% จากปีนี้มีแนวโน้มเติบโต 15-16% และมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่อง ทั้งเครื่องแบบซิงเกิล ฟังก์ชั่นที่มีส่วนแบ่งตลาดแล้ว 55% และเครื่องพิมพ์แบบออล อิน วันที่มีส่วนแบ่งตลาดแล้ว 53.8%