User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » แคนนอน อ่วมน้ำท่วม รายได้หดพันล้าน
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

แคนนอน อ่วมน้ำท่วม รายได้หดพันล้าน

แคนนอนรับน้ำท่วมกระทบยอดรายได้รวม ลดลงไป 1,000 ล้านบาท ล่าสุดโรงงานเริ่มกลับมาผลิตตามปกติแล้ว และคาดว่าจะยังยึดอันดับหนึ่งเครื่องพิมพ์ซิงเกิลฟังก์ชันติดต่อกันเป็นปี ที่ 12 ส่วนปีหน้าเชื่อรายได้รวมทะลุหมื่นล้าน

นายวาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) กล่าวว่า จากเดิมแคนนอนคาดการณ์รายได้รวมทั้งปีไว้ที่ 9,300 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นอัตราเติบโตราว 10% แต่จากเหตุการอุทกภัยที่เกิดขึ้นทำให้คาดว่ารายได้จะลดลงเหลือ 8,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตจากปีที่ผ่านมาราว 10%

"ผลกระทบหลักมาจากโรงงานผลิต พรินเตอร์อิงค์เจ็ทที่โดนน้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงทำให้กำลังการผลิตในช่วงเดือนต.ค. - พ.ย. หยุดไป และเพิ่งจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ในช่วงดังกล่าวแคนนอนก็ได้มีการขยายฐานการผลิตไปยังนครราชสีมา ซึ่งเริ่มผลิตเมื่อ 21 พ.ย. เพื่อลดการขาดแคลนสินค้า"

โดยทางแคนนอนยืนยันว่าจะไม่มีการย้ายฐานการผลิตแน่นอน เพราะยังเชื่อมั่นว่าตลาดในประเทศไทยยังมีศักยภาพการเติบโตที่ดี และแนวโน้มตลาดก็เชื่อว่ายังเติบโตต่อเนื่อง สำหรับสัดส่วนรายได้ของกลุ่มผลิตภัณฑ์พรินเตอร์ ถือเป็นสัดส่วนราย 35% ของรายได้รวม ส่วนกลุ่มที่ทำรายได้ให้แคนนอนมากที่สุดคือ 50%

นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเติบโตของกลุ่มธุรกิจพรินเตอร์นั้น เติบโตจากช่วงปีที่ผ่านมาราว 15-16% ส่วนในปีหน้าเชื่อว่ากลุ่มพรินเตอร์ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องไม่ต่ำ กว่า 13%

"ตอนนี้แคนนอนมีส่วนแบ่งในตลาด 55.2% ในส่วนของผลิตภัณฑ์อิงค์เจ็ทพรินเตอร์กลุ่ม ซิงเกิลฟังก์ชัน ส่วนในกลุ่ม ออลอินวัน มีส่วนแบ่ง 53.8% ทำให้เชื่อว่าจะสามารถยึดอันดับหนึ่งในกลุ่มนี้ต่อไปเป็นปีที่ 12"

ส่วนแคมเปญใหม่จะแบ่งออกเป็น 4 แคมเปญ คือ Be Trend โชว์ประสิทธิภาพของเทคโนโลยีคลาวด์พรินติ้ง ที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากความสะดวกสบายในการใช้ งาน Be Fun ให้สนุกสนานกับซอฟต์แวร์ที่หลากหลายในการพิมพ์ภาพ และสมุดภาพ Be Efficient ที่ประหยัดหมึก ทำให้ต้นทุนการพิมพ์เหลือแผ่นละ 49 สตางค์ สุดท้าย Be Clever ที่ทำเทคโนโลยีไว-ไฟ มาใช้กับตัวผลิตภัณฑ์

"ปีหน้าเชื่อว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์เลวร้าย แคนนอนตั้งเป้าว่ารายได้รวมน่าจะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท" นายวาตารุ กล่าวทิ้งท้าย
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.