User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » พรินเตอร์มองระยะยาว โฟกัสคอร์ปอเรตดีกว่า
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

พรินเตอร์มองระยะยาว โฟกัสคอร์ปอเรตดีกว่า

เปิดแนวรบตลาด พรินเตอร์เอปสันต่อจากนี้ รุกโฟกัสกลุ่มองค์กรธุรกิจ หลังพบตลาดเติบโตสูง หนำซ้ำยังสามารถต่อยอดการขายได้ดีกว่ากลุ่มคอนซูเมอร์ โดยมี “อิงก์เจ็ต พรินเตอร์” เป็นสินค้าเรือธงสำหรับบุกทะลวงถึงกลุ่มเป้าหมาย ล่าสุดส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ 7 รุ่น ตอบโจทย์ทุกกลุ่มธุรกิจ ตั้งแต่องค์กรขนาดเล็ก เอสเอ็มบี ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ หวังสิ้นปีรักษาการเติบโต 10% หรือคิดเป็นยอดขายราว 2,300 ล้านบาท พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตระยะยาว

ภาพการแข่งขันของตลาดเครื่องพิมพ์ตั้งแต่ต้นปี นับเป็นเวทีที่ถือว่าดุเดือด และถึงตอนนี้ยังร้อนแรงทุกพื้นที่ โดยจะเห็นว่าแม้จะเจอสถานการณ์น้ำท่วม จนส่งผลต่ออารมณ์การจับจ่ายใช้สอยบ้าง แต่ตลาดยังคงเติบโต โดยในแวดวงผู้ประกอบการได้ประเมินตัวเลขภาพรวมตลาดยังคงเติบโตราว 5-10% ส่วนปีหน้าน่าจะเติบโตในทิศทางเดียวกัน

“ปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายมาก เนื่องจากมีปัญหาน้ำท่วม ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงแผนการทำงานชะลอตัว แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ปรกติต้นปีหน้า” เออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ขณะที่ ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า หากย้อนกลับมาดูพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบัน จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยกลุ่มคอนซูเมอร์ มีการพิมพ์น้อยลง ในขณะที่กลุ่มองค์กร กลับยังมีการพิมพ์ต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการซื้อซัปพลายเพิ่มต่อเนื่อง เช่น หมึกพิมพ์ จึงช่วยต่อยอดการขายได้มากขึ้น และนั่นจึงทำให้เอปสันต้องปรับแนวทางการบุกตลาดใหม่ โดยพยายามหันมาขยายไลน์ในกลุ่มธุรกิจเป็นหลัก เพื่อรับเทรนด์ตลาดองค์กรที่มีการเติบโตสูง

สำหรับความเคลื่อนไหวของผู้เล่นรายนี้ ถือได้ว่าเป็นความต่อเนื่องที่พยายามขยายฐานและบุกเซกเมนต์กลุ่มองค์กร ธุรกิจ โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เอปสันเริ่มหันมาสนใจทำตลาดนี้มากขึ้น โดยสินค้าและนวัตกรรมที่เปิดตัวในช่วงนี้ล้วนเป็นสินค้าที่ออกมาเจาะกลุ่ม ธุรกิจ ทำให้ปัจจุบันสินค้าพรินเตอร์เอปสัน มีสัดส่วนเปลี่ยนไป โดยสินค้ากลุ่มองค์กรธุรกิจมีสัดส่วนสูงถึง 60% ขณะที่คอนซูเมอร์มีสัดส่วนเพียง 40%

การขยับปรับทัพสินค้าของเอปสันในครั้งนี้ จะบุกขยายฐานให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งองค์กรขนาดเล็ก เอสเอ็มบี และธุรกิจขนาดใหญ่ โดยเลือกที่จะใช้ “อิงก์เจ็ต พรินเตอร์” เซกเมนต์ที่เอปสันมีความแข็งแกร่ง หนำซ้ำตลาดยังมีขนาดใหญ่และมีศักยภาพการเติบโตมากสุด โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 7-10% ขณะที่ตลาดเลเซอร์ พรินเตอร์ มีการเติบโตประมาณ 3-5% เท่านั้น

กลับมาที่การทำตลาดอิงก์เจ็ต พรินเตอร์ในกลุ่มองค์กรล่าสุด แน่นอนว่า ด้วยเป้าหมายที่เอปสันต้องการขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มยิ่งขึ้น ผู้เล่นรายนี้จึงต้องวางยุทธศาสตร์มาเป็นอย่างดี โดยครั้งนี้พบว่า ยังคงตอกย้ำจุดขายเดิมในเรื่องต้นทุนต่อแผ่นที่ต่ำกว่าคู่แข่ง และการพิมพ์ด้วยเลเซอร์ พรินเตอร์

แต่สิ่งที่จะเพิ่มเติมเข้าไปมากยิ่งขึ้น ก็คือ การชูให้เห็นถึงความสามารถในการพิมพ์ ทั้งด้านความเร็ว ที่พิมพ์ได้รวดเร็วกว่าเครื่องเลเซอร์ และได้คุณภาพการพิมพ์สูงเทียบเท่า เพราะจากการสำรวจวิจัย พบว่า เป็นความต้องการเชิงลึกของผู้บริโภคกลุ่มนี้ที่ต้องการต้นทุนการพิมพ์ต่อ แผ่นที่ต่ำ ขณะเดียวกันก็ต้องการความรวดเร็วในการพิมพ์ด้วย โดยเอปสันเชื่อว่า หากสามารถชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพดังกล่าวได้ จะทำให้ลูกค้าองค์กรเปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้เลเซอร์ พรินเตอร์ มาสู่ อิงก์เจ็ต พรินเตอร์ นั่นเอง

ผลิตภัณฑ์อิงก์เจ็ต พรินเตอร์ที่ใช้ในการบุกตลาดจากนี้ จะออกเป็น 3 ซีรีส์ ทั้งหมด 7 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Epson ME Office เป็นออลอินวัน พรินเตอร์ที่มีขนาดเล็ก Epson K-Series เป็นโมโนโครมอิงก์เจ็ต พรินเตอร์ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการพิมพ์เอกสารขาวดำ และ Epson WorkForce Pro Series สำหรับรองรับธุรกิจระดับเอสเอ็มบี ถึงองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีงานพิมพ์จำนวนมาก

นอกจากนี้ การขยายเครือข่ายร้านตัวแทนจำหน่ายก็มีเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงธุรกิจของลูกค้า และครอบคลุมทุกพื้นที่มากยิ่งขึ้น

สำหรับการรุกตลาดพรินเตอร์กลุ่มองค์กรในครั้งนี้ ทางเอปสันหวังว่า นวัตกรรมอิงก์เจ็ตใหม่จะเข้ามาช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโต 10% ต่อเนื่องถึงปีหน้า พร้อมกับสร้างการเติบโตให้กับเอปสันในระยะยาวด้วย
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.