"เลอโนโว" ใส่เกียร์เร่งยอดต่างจังหวัด-คอนซูเมอร์ ชดเชยน้ำท่วมตลาดกรุงเทพฯ ไม่ฟันธงปรับราคาสินค้าขึ้น พร้อมดึงมือดีคู่แข่งคุมเกมตลาดใหญ่

นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว ว่า บริษัทปรับแผนทำตลาดพีซีไทย โดยจะเริ่มขยายช่องทางการขายในต่างจังหวัด และเพิ่มสัดส่วนการขายในตลาดคอนซูเมอร์ เพื่อชดเชยรายได้ในช่วงวิกฤติน้ำท่วมไทยในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้รวมถึงการเพิ่มกิจกรรมทางการตลาด และสร้างแบรนดิ้งของเลอโนโวในต่างจังหวัด เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดส่วนใหญ่ของเลอโนโวจะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

ส่วนผลกระทบตลาดองค์กร ซึ่งมีบางส่วนเป็นลูกค้าในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม บริษัทมีมาตรการช่วยเหลือโดยให้เช่าใช้สำนักงาน หรืออุปกรณ์ที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงเพิ่มข้อเสนอทางการเงินให้

"ปีหน้าเราจะต้องโตในกลุ่มคอนซูเมอร์ให้เร็วกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาบุคลากรยังไม่มีความพร้อม ซึ่งน้ำท่วมก็กระทบกรุงเทพฯ และเป็นตลาดที่กำลังซื้อมาก แต่เราก็เริ่มปรับแผนตลาดอื่นๆ นอกจากองค์กรที่แข็งแกร่งแล้ว ดูจากยอดขายที่โตต่อเนื่อง 8 ไตรมาส" นายจีรวุฒิ กล่าว

พร้อมกันนี้ยังได้ประกาศแต่งตั้ง "นายปวิณ วรพฤกษ์" อดีตผู้บริหารระดับสูงของฮิวเลตต์-แพคการ์ด เข้ารับตำแหน่งผู้ จัดการประจำประเทศ ดูแลตลาดฝั่งคอนซูเมอร์โดยเฉพาะ มีผลตั้งแต่เดือนพ.ย. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารเลอโนโว ประเมินว่า แนวโน้มยอดขายพีซีในไตรมาส 4 จะลดลงราว 30% และต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 1 ซึ่งเลอโนโวก็เช่นเดียวกัน โดยเป็นผลจากปัญหาซัพพลายสินค้า โดยเฉพาะฮาร์ดดิสก์ที่อาจทำให้โน้ตบุ๊คราคาสูงขึ้น แต่สำหรับเลอโนโวยังไม่ประกาศปรับราคา เนื่องจากต้องรอดูกลไกตลาด และยังสามารถใช้วิธีการทำโปรโมชั่นอื่นๆ ทดแทนการปรับราคาขึ้น

ล่าสุด บริษัทยังได้เปิดตัวโน้ตบุ๊คใหม่ตระกูล "ยู ซีรีส์" อัลตราบุ๊คที่ใช้หน่วยความจำแบบเอสเอดีแทนฮาร์ดดิสก์ โดยรุ่นไฮไลต์ คือ "ยู300เอส" ดีไซน์บางเบา วัสดุอะลูมิเนียม ใช้ซีพียูเวอร์ชั่นล่าสุดของอินเทล ราคา 50,900 บาท

นายปวิณ วรพฤกษ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ บริษัทเดียวกัน เผยว่า ปัจจัยลบในไตรมาส 4 คาดว่าจะไม่กระทบกับยอดขายมาก เนื่องจากเลอโนโวมีนโยบายทำโปรโมชั่นกับร้านค้าหน้าร้านอยู่แล้ว และไม่พึ่งพายอดขายจากงานไอทีใหญ่ๆ มาก

อย่างไรก็ตามส่วนที่กระทบหลัก คือ บริษัทจำเป็นต้องเลื่อนงานอีเวนท์ต่างๆ ออกไปจากแผนเดิม ซึ่งหลายงานต้องขยับไปเป็นปีหน้าแทน รวมทั้งงานเปิดตัวโน้ตบุ๊ค ยู ซีรีส์ ที่ต้องมีตั้งแต่เดือนพ.ย. 2554

รวมทั้งเพิ่มทีมงานในต่างจังหวัดจาก 2 เป็น 6 คน และเพิ่มสัดส่วนการขายในกลุ่มคอนซูเมอร์ให้ได้เป็น 70% จากเดิมที่ตลาดส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มองค์กร

นอกจากนี้ยังจะเพิ่มไลน์สินค้าให้ครอบคลุมมากขึ้นนอกเหนือ จากพีซี, โน้ตบุ๊ค และแทบเล็ต โดยอยู่ระหว่างการพิจารณานำมือถือเข้ามาทำตลาดไทย หลังจากเริ่มทดลองทำตลาดฟิลิปปินส์ และเวียดนามแล้ว

"สำหรับแทบเล็ตเราอาจจะต้องปรับช่องทางการขายนอกเหนือจาก ไอที เพราะเป็นสินค้าที่มีแอพพลิเคชั่นที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะในการขยาย รวมทั้งทำโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อกระตุ้นตลาดให้มากขึ้น" นายปวิณ กล่าว

บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้ได้ 10% ภายในปี 2555 จากปัจจุบัน 6.8% และเป็นผู้ค้าพีซีอันดับ 5-6 ในตลาดไทย ขณะที่อันดับหนึ่งมีส่วนแบ่งตลาด 30% ส่วนอันดับที่ 2-5 มีส่วนแบ่งตลาดราว 8-10%