ย้อนไปเมื่อ3 ปีก่อน เรายังไม่สามารถใช้มือถือท่องอินเทอร์เน็ตได้ และสมาร์ทโฟนที่มีเว็บเบราว์เซอร์ที่สมบูรณ์ก็มีสัดส่วนไม่กี่เปอร์เซ็นต์

และแทบจะไม่มีใครเลยที่ใช้อุปกรณ์พกพาเป็นช่องทางหลัก ในการเชื่อมต่อออนไลน์

แต่มาในปี 2553 ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด เราสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยสมาร์ทโฟนที่มีเว็บเบราว์เซอร์แบบสมบูรณ์ ยอดจำหน่ายอุปกรณ์เหล่านี้พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก

"เรารู้ว่ามีการใช้โทรศัพท์มือถือเกือบ 100% ในประเทศไทย แล้วก็คนไทยชอบใช้โทรศัพท์กันจริงๆ จังๆ แต่คุณอาจประหลาดใจถ้ารู้ว่าคนไทยมีโทรศัพท์มือถือที่เป็นสมาร์ทโฟนอยู่ เท่าไร"

"อริยะ พนมยงค์" หัวหน้าฝ่ายธุรกิจกูเกิล ประจำประเทศไทย ตั้งคำถาม พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่า จากการสำรวจเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือทั่วโลก ล่าสุดที่จัดทำโดยกูเกิล IPSOS และสถาบันวิจัยการตลาดบนอุปกรณ์มือถือ (MMA) พบว่า 28% ของโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยเป็น สมาร์ทโฟน ซึ่งในวันนี้เป็นเรื่องปกติ ที่คุณแม่ของคุณก็ยังใช้สมาร์ทโฟน คนนั่งข้างๆ ในรถไฟฟ้าบีทีเอสที่กรุงเทพฯ ในร้านกาแฟวาวีที่เชียงใหม่ หรือแม้แต่คนอาบแดดริมหาดในภูเก็ตก็ใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน

กูเกิล มองว่า พัฒนาการของอุปกรณ์พกพานับเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะผู้ใช้สมาร์ทโฟน อย่าง ไอโฟน และแอนดรอยด์โดยเฉลี่ยทั่วโลก มีแนวโน้มค้นหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้นถึง 50 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ใช้โทรศัพท์ที่มีฟีเจอร์มาตรฐาน ปริมาณการค้นหาข้อมูลผ่านอุปกรณ์พกพาของกูเกิลเพิ่มสูงขึ้นถึง 5 เท่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และในกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์มือถือที่เป็นสมาร์ทโฟน 45% ของคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์พกพาวันละหลายๆ ครั้ง

"กูเกิล ยังให้ความสำคัญกับระบบ "โมบายล์" เป็นอันดับแรก โดยจะเปิดตัวบริการใหม่ๆ เฉพาะในกรณีที่สามารถใช้การได้ดีบนอุปกรณ์พกพาเท่านั้น และเราพยายามมองหาหนทางที่จะช่วยให้ผู้ลงโฆษณาใช้ประโยชน์จากพัฒนาการของ ระบบโมบายล์อย่างเต็มรูปแบบ"

อริยะ บอกว่า เว็บบนสมาร์ทโฟนมีรูปลักษณ์เหมือนกับเว็บบนเดสก์ทอป นั่นหมายความว่า คุณสามารถขยายแคมเปญออนไลน์ไปสู่ระบบโมบายล์ได้สะดวกง่ายดาย นอกจากนี้ เว็บบนโทรศัพท์ของคุณยังเพิ่มเติมความสามารถใหม่ๆ ให้กับเดสก์ทอป ความสามารถที่ว่านี้มีความสำคัญสำหรับนักการตลาดที่ต้องการกระตุ้นให้ผู้ บริโภคดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งในทันที

"ผู้ใช้มักจะค้นหาข้อมูลบนอุปกรณ์พกพาในยามคับขัน เช่น ต้องการหาร้านอาหาร เดี๋ยวนี้ หรือจำเป็นต้องหาช่างซ่อมในตอนนี้ และนั่นย่อมหมายถึงโอกาสที่เขาจะโทรติดต่อ หรือแวะไปที่ร้านค้าของคุณในทันที และในระยะยาวโฆษณาของคุณก็จะมีความเกี่ยวข้อง และมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น โดยมือถือมีส่วนช่วยในการตัดสินใจ เพราะว่า 78% ของผู้ใช้ชาวไทยที่เข้าถึงข้อมูลท้องถิ่น ตัดสินใจว่าจะซื้อหรือใช้บริการต่างๆ เหล่านั้น" อริยะว่า

ทั้งนี้ กูเกิล ได้แนะนำขั้นตอนสำหรับตลาดในประเทศไทย ที่หากพร้อมที่จะทำ "โมบายล์ มาร์เก็ตติ้ง"..ก็ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ดู

1. เริ่มต้นด้วยการค้นหา การโฆษณาผ่านเครื่องมือค้นหาข้อมูลบนอุปกรณ์พกพา นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สะดวกรวดเร็วสำหรับบริษัทที่ลงโฆษณาไว้แล้วบนแพ ลตฟอร์มเดสก์ทอป โดยคุณสามารถใช้เครื่องมือ และกระบวนการเดียวกันเพื่อวางแผนแคมเปญโฆษณาบนอุปกรณ์พกพาเพิ่ม นอกเหนือจากแคมเปญบนเดสก์ทอป

โดยที่จริงแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโฆษณาของคุณเลยเพื่อที่จะแสดงผลบนโทรศัพท์มือ ถือระดับไฮเอนด์ เพียงแค่ทำเครื่องหมายในช่องตัวเลือกในแอดเวิร์ดส์ คุณก็จะสามารถขยายแคมเปญที่คุณมีอยู่ไปยังอุปกรณ์พกพา และสามารถเปิด ปิดแคมเปญของคุณได้ทุกเวลา

2. แสดงโฆษณาบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นแบบพกพา นอกเหนือจากการค้นหาข้อมูลบนอุปกรณ์พกพาแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถท่องเว็บ อ่านข่าว แบ่งปันข้อมูล บนโซเชียลมีเดียและใช้งานแอพต่างๆ ได้ด้วย หลังได้เริ่มต้นที่เครื่องมือค้นหาข้อมูล ให้พิจารณาที่จะลงโฆษณาข้อความบนเครือข่ายซึ่งครอบคลุมเว็บไซต์และโมบายล์แอ พหลายพันรายการ ทั้งยังสามารถแสดงโฆษณาภาพที่มีอยู่บนเครือข่ายโมบายล์ของกูเกิลได้เช่นกัน แต่อาจต้องปรับขนาดให้พอดีกับหน้าจอขนาดเล็ก

3.ปรับแต่งสำหรับโมบายล์ การขยายแคมเปญเดสก์ทอปของคุณเพื่อให้ครอบคลุมอุปกรณ์พกพานับเป็นจุดเริ่มต้น ที่ดี แต่การดึงดูดลูกค้าบนโมบายล์เว็บ จำเป็นต้องปรับแต่งแคมเปญให้เหมาะกับฟีเจอร์ที่แตกต่างของระบบโมบายล์

ขั้นแรก ต้องปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณสำหรับแพลตฟอร์มโมบายล์ เช่น ใส่ปุ่มขนาดใหญ่ และไฮเปอร์ลิงค์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ในการย้ายไปยังส่วนต่างๆ ในไซต์ของคุณบนหน้าจอขนาดเล็ก นอกจากนี้ ควรจะสร้างแคมเปญการค้นหาสำหรับระบบโมบายล์โดยเฉพาะ เพื่อปรับแต่งให้สอดรับกับวิธีการค้นหาข้อมูลบนอุปกรณ์พกพา

4. กระตุ้นการดำเนินการในทันที ผู้ใช้ที่ค้นหาข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ในขณะเดินทางมักจะโทรติดต่อร้านค้าโดย ตรง แทนที่จะเข้าดูเว็บไซต์ของร้านค้านั้น โฆษณารูปแบบใหม่บนระบบโมบายล์ เช่น โฆษณาที่มีการคลิกเพื่อโทรออก จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการดำเนินการจากโทรศัพท์ของตนเองใน ทันที ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ธุรกิจที่ลงโฆษณาบนกูเกิล โดยใช้ฟีเจอร์การคลิกเพื่อโทรออกพบว่าจำนวนการคลิกบนโฆษณาผ่านอุปกรณ์พกพา เพิ่มขึ้น 6%

5. ตรวจสอบติดตาม ตรวจวัด ปรับแต่ง หลังจากจัดทำแคมเปญที่เฉพาะเจาะจงสำหรับระบบโมบายล์แล้ว คุณจะสามารถเริ่มต้นตรวจสอบติดตามประสิทธิภาพ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความประทับใจ การคลิก การเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ การโทรติดต่อร้านค้าของคุณ เครื่องมือฟรีต่างๆ เช่น ระบบวิเคราะห์ข้อมูลของ Google (Google Analytics) จะช่วยให้คุณสามารถใช้ข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อให้เข้าใจว่าแคมเปญของคุณเชื่อมโยงกับลูกค้าของคุณหรือไม่ และควรจะปรับปรุงอย่างไรเพื่อให้เกิดประสิทธิผลอย่างแท้จริง