โตชิบา ไทยแลนด์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุดใน 4 หมวด ได้แก่ อัลตร้าบุ๊ก, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ,โปรเจกเตอร์ ก่อนหมดปี 54 จัดช่วยเหลือลูกค้าได้รับผลกระทบน้ำท่วม พร้อมการันตี! ไม่นำสินค้าจมน้ำมาวางขายแน่นอน...

นายยูกิฮารุ อาดาชิ ประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีปณิธานพัฒนาสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะนวัตกรรมที่เน้นการรักษาสิ่งแวดล้อม ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคทุกกลุ่ม ล่าสุดบริษัทนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ 4 รุ่น ได้แก่ อัลตร้าบุ๊ก แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และโปรเจกเตอร์ โดยในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะขึ้นเป็น 1 ใน 3 ผู้นำตลาด และมีส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไม่ต่ำกว่า 15% ของตลาดรวมทั้งหมด

นาย ถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี กล่าวว่า บริษัทวางกลยุทธ์เข้าถึงผู้บริโภคโดยขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย และเน้นการตอบสนองความสะดวกในการใช้งาน ควบคู่การออกแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิตอล สำหรับอัลตราบุ๊ก PORTÉGÉ Z830 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของนักธุรกิจผู้หญิง หรือผู้ที่ต้องติดต่องานนอกสถานที่ ด้วยคุณสมบัติบางเบาเป็นพิเศษ ความรวดเร็วในการใช้งาน และแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้งานในสถานที่ต่างๆ

ขณะที่แท็บเล็ต REGZA Tablet สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ชื่นชอบการเล่นเกม โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ต่างสีต่างขนาด คือ AT100 หน้าจอ 10.1 นิ้ว และ AT1S0 หน้าจอ 7 นิ้ว โดยทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.2 ส่วนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบออล-อิน-วัน รุ่น Qosmio DX730 ถือเป็นผลิตภัณฑ์ออล-อิน-วันรุ่นแรก ที่โตชิบาพัฒนาขึ้น เพื่อตอบสนองตลาดที่ตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงจากการใช้คอมพิวเตอร์แบบตั้ง โต๊ะทั่วไป หรือเดสก์ทอป เป็นแบบออล-อิน-วัน รองรับการทำงาน เล่นเกม และเหมาะเป็นจุดศูนย์กลางความบันเทิงของครอบครัว ส่วนผลิตภัณฑ์รุ่นสุดท้ายคือ โปรเจกเตอร์รุ่น NPS10A และ NPX10A เพื่อตอบสนองการใช้งานในออฟฟิศทั้งการนำเสนองาน การประชุม การฝึกอบรม หรือใช้ทำการเรียนการสอนในโรงเรียน เป็นต้น

สำหรับอัลตร้าบุ๊ก Portege Z830 ราคาเริ่มต้นที่ 42,990 บาท แท็บเล็ต REGZA AT100 19,990 บาท รุ่น AT1S0 เริ่มต้นที่ 17,190 บาท คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ Qosmio DX730 เริ่มต้นที่ 41,990 บาท และ โปรเจกเตอร์ NP ซีรีย์ เริ่มต้นที่ 13,900 บาท

ด้าน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า บริษัทดำเนินนโยบายสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวันและเป็นมิตรกับสิ่งแวด ล้อม จากวิกฤติน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมานั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับ 9 บริษัทของโตชิบา ในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี และ 1 บริษัทในนวนคร จะเป็นบทเรียนยิ่งใหญ่ให้ทุกภาคส่วนเคารพ และเข้าใจธรรมชาติมากขึ้น เรียนรู้ที่จะอยู่บนความสมดุลระหว่างมนุษย์ ธุรกิจ และสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ บริษัท โตชิบา คอร์ปอเรชั่น บริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น ได้แสดงเจตจำนงต่อผู้บริหาร โตชิบา ไทยแลนด์ ว่าจะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนกลุ่มบริษัทโตชิบาไทย โดยจะไม่มีการถอนหรือลดการลงทุนในประเทศไทย และยังตั้งปณิธานสนับสนุนประเทศไทยด้านการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ บริษัทจัดให้มีบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ได้รับ ความเสียหายจากน้ำท่วม เริ่มตั้งแต่จังหวัดอยุธยาและนครสวรรค์ ตั้งแต่ใน เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล บริษัทได้เปิดสำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต และโตชิบา อินทลิเจน ช็อป ชั้น 2 สยามพารากอน ตั้งแต่วันที่ 9-30 ธ.ค.นี้ และให้บริการตรวจเช็กผลิตภัณฑ์สินค้าไอที รวมถึงส่วนลดอะไหล่สูงสุด 50% (เฉพาะรุ่น) ในทุกจังหวัดที่มีศูนย์ซ่อมของโตชิบา โดยได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา จนกว่าสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ พร้อมให้คำมั่นกับผู้บริโภค ว่าจะไม่นำสินค้าที่โดนน้ำท่วมมาออกขายอย่างแน่นอน.