User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » "ดามพ์ สุคนธทรัพย์" จากค้าปลีกสู่โทรคม ความท้าทายบทใหม่
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

"ดามพ์ สุคนธทรัพย์" จากค้าปลีกสู่โทรคม ความท้าทายบทใหม่

การลาออกจากตำแหน่งของ "ธนา เธียรอัจฉริยะ" ลูกหม้อคนสำคัญที่ปลุกปั้นแบนด์ "แฮปปี้" เมื่อกลางปีที่ผ่านมา สะเทือนถึง "ดีแทค" ไม่น้อยที่ไม่มีกระบอกเสียงคนไทยไว้ติดต่อและเดินงานราชการต่างๆ แถมต้องมาเจอวิกฤตถูกคู่แข่งเบอร์ 3 ยื่นฟ้องกรณีเป็นต่างด้าว ทำให้การเข้ารับตำแหน่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ "ดามพ์ สุคนธทรัพย์" ที่โดดข้ามจากเทสโก้ โลตัส สู่ตึกจามจุรี สแควร์ เป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

เขาจะสางปมปัญหาที่ดีแทคเพลี่ยงพล้ำคู่แข่ง ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจเช่นนี้อย่างไร ต้องฟังจากปากเจ้าตัว ที่ได้รับแต่งตั้งจากบอร์ดบริหารดีแทคเข้าดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2554 ห้วงเวลาที่มวลน้ำมหาศาลไหลบ่า

ค้าปลีก-โทรคมท้าทายต่างกัน
ดามพ์ กล่าวว่า การทำงานตำแหน่งนี้กับดีแทค ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายในการบริหาร แม้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมจะต่างจากอุตสาหกรรมค้าปลีกที่เคยคลุกคลีมา ในตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เอกชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้ โลตัส) แต่เขาไม่ต้องการให้เปรียบเทียบระหว่างอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งว่า ดี ไม่ดี ยากง่าย หรือต่างกันตรงไหนอย่างไร

เนื่องจาก แต่ละอุตสาหกรรมมีลักษณะเฉพาะ มีเป้าหมายที่ท้าทายแตกต่างกัน มีปัญหาที่ต้องแก้ไขต่างกัน ขึ้นอยู่ที่ว่าตอนไหนบทบาทเราอยู่ตรงไหน ธุรกิจใด ก็ต้องทำธุรกิจนั้นๆ ให้ดีที่สุด

"ผมมีเทอมการทำงานของตัวเองในใจ แน่นอนว่าการเข้ามาในดีแทคต้องอยากให้เกิดผลงานที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ หรือพาองค์กรให้สามารถสร้างการแข่งขัน ทำตลาด หาลูกค้าได้เท่าเทียมกับคนอื่นๆ"

หากให้มองตลาดโทรคมนาคม กับดีแทคใน ขณะนี้ เขา บอกว่า อุตสาหกรรมโทรคม มีส่วนช่วยพัฒนาขีดความสามารถของประเทศ ช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภคของประเทศ ซึ่งแม้ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ แต่โทรคมนาคมถือเป็นการติดต่อสื่อสารที่สำคัญของคนในชาติ ซึ่งบทพิสูจน์คือ อัตราการใช้งานโทรศัพท์มือถือยังไม่ได้น้อยลงไปเลย

สางปมข้อหา"บริษัทต่างด้าว"
ผลพวงจากกระทรวงพาณิชย์รับลูกจากกลุ่มทรู คอร์ป สอบสวนว่า ดีแทคเป็น บริษัทต่างด้าว จากการถือหุ้นทางตรง-ทางอ้อมของนักลงทุนต่างชาติ และผ่านบริษัทโฮลดิ้งต่างๆ ที่มีลำดับชั้นการถือครองหุ้นมากกว่า 35 ชั้น แม้ผ่านมาเกือบ 5 เดือน เรื่องดังกล่าวยังไร้ความชัดเจน แต่ปัญหาความไม่แน่นอนนั้นย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่ออารมณ์ และความเชื่อมั่นของลูกค้าดีแทคทั้ง 20 ล้านราย

ดามพ์ กล่าวว่า หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เขาได้ทำการบ้านกับข้อหาดังกล่าวที่ผู้ประกอบการบางรายจงใจหยิบยื่นให้ จริงอยู่ที่ดีแทคจะ มีผู้ถือหุ้นเป็นคนต่างชาติ และแม้อาจจะมีบางบริษัที่ยกตัวเองว่า เป็นบริษัทคนไทย 100% แต่หากตรวจสอบลึกไปถึงการถือหุ้นรายย่อย อาจพบการถือหุ้นของกองทุนต่างชาติก็เป็นไปได้ อีกทั้งในอุตสาหกรรมโทรคม อาจนำเข้าวัสดุอุปกรณ์ หรือนำเข้าเทคโนโลยี จากต่างชาติอยู่แล้ว

"ผม อยากให้มองถึงขีดความสามารถในการแข่งขันมากกว่า โดยเฉพาะธุรกิจโทรคมนาคม ที่ต้องใช้เรื่องเทคโนโลยีสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นเราต้องพัฒนาศักยภาพเรื่องเทคโนโลยีการสื่อสารของประเทศให้ก้าวหน้า ไปอีกระดับหนึ่ง เพื่อจะทำให้การติดต่อสื่อสารทำได้สะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น"

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศไทย นับว่าเสียทียบประเทศอื่นมามากแล้ว โดยเฉพาะเทคโนโลยี3 จี ขณะที่บางประเทศนั้นเริ่มที่จะใช้เทคโนโลยี4 จีแล้ว ซึ่งสิ่งที่จะช่วยส่งเสริมโทรคมนาคมของไทยให้มีความก้าวหน้าสามารถแข่งขัน กับต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านได้

ส่วนปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทได้หารือและได้เข้าไปชี้แจงรายละเอียดให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร (ไอซีที) และคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) อย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเจตนาดี มีวิสัยทัศน์ และนโยบายที่ดีในการช่วยพัฒนา ซึ่งดีแทคเองก็พร้อมร่วมมือกับทุกหน่วยงานเพื่อนำพาโทรคมนาคมให้เดินหน้าต่อไป

ประกาศครอบงำฯทำเสียโอกาส
พร้อม กันนี้ เขา แสดงความเห็นถึงประกาศ กสทช. เรื่อง การกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำโดยคนต่างด้าว พ.ศ.2554 ว่า กสทช. ควรยกเลิกประกาศดังกล่าวไปเสียดีกว่า ภาคโทรคมมีหลายธุรกิจต้องการการส่งเสริมด้วยเงินลงทุน และอีกด้านหนึ่งก็ย่อมต้องการความมั่นคงของประเทศเป็นสิ่งที่คู่ขนานกันไป แต่หลายๆ ประเทศ ที่เคยมีประกาศหรือกฎหมายกำกับควบคุมล้วนผ่อนปรนให้กฎเกณฑ์เหล่านี้ยืดหยุ่น กับนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น

"ความรู้สึกชาตินิยม รู้สึกรักหวงแหนทรัพยากรของประเทศเป็นสิ่งที่คนไทยทุกควรพึงปฎิบัติอยู่แล้ว แต่การนำประกาศครอบงำมาใช้ในวัตถุประสงค์ มีเจตนารมณ์ที่กีดกันผู้อื่น เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ กสทช.ไม่จำเป็นต้องแก้ประกาศฉบับนี้ ควรยกเลิกไปเลยจะดีกว่า อย่าทำเรื่องที่ขี้เหร่ให้น่าเกลียดกว่าเดิม"

เขา บอกด้วยว่า บริษัทได้จดทะเบียน และกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เช่นเดียวกับบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ ในหลายๆ อุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมโทรคมนาคมก็มีหลายบริษัทที่มีนักลงทุน กองทุน และผู้ถือหุ้นเป็นคนต่างชาติ ซึ่งถือเป็นปกติในบริษัทมหาชนที่ต้องการระดมเงินทุนจากต่างชาติเข้ามาเปิด บริการ และพัฒนาเทคโนโลยี

ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบกับปัญหาอย่างหนักในหลายๆ ด้าน ทั้งการเมืองภายในประเทศ เศรษฐกิจ และภัยธรรมชาติ ซึ่งปัจจัยลบเหล่านี้ ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ และทำให้สูญเสียโอกาสการลงทุน และตัวประกาศฉบับนี้ ย่อมส่งผลลบในทุกๆ ด้านของอุตสาหกรรม ขาดการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.