นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานความก้าวหน้าในการป้องกันและฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมและการช่วย เหลือ โดย 7นิคมอุตสาหกรรมที่ถูกน้ำท่วมมี 4 นิคมที่สูบน้ำออกหมดแล้วและเริ่มประกอบกิจการได้ประมาณ 20 %ประกอบด้วย เขตประกอบการอุตสาหกรรมแฟคตอรี่แลนด์, เขตประกอบการอุตสาหกรรมโรจนะ,นิคมอุตสาหกรรมบางปะอินซึ่งมีบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล(ประเทศ ไทย) จำกัด ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ รายใหญ่ของโลก เริ่มประกอบการได้แล้ว และนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า(ไฮเทค) ซึ่งบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) จำกัดเริ่มประกอบการได้บางส่วน

ขณะที่สวนอุตสาหกรรมบางกะดี และนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร สูบน้ำออกจากพื้นที่เสร็จแล้ว และจะจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ คาดว่าผู้ประกอบการบางส่วนจะเริ่มประกอบการได้ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ สำหรับสวนอุตสาหกรรมนวนคร อยู่ระหว่างการระบายน้ำออกจากพื้นที่คาดว่าจะเสร็จวันที่ 9 ธ.ค.นี้ สาเหตุที่ล่าช้าเพราะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำอยู่ในสวนอุตสาหกรรมจำนวนมาก

ส่วนการซ่อมแซมสาธารณูปโภคพื้นฐานในทุกนิคมอุตสาหกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็ว จากการร่วมมือของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค โรงงานส่วนใหญ่เข้าทำความสะอาดพื้นที่ ซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องจักร เพื่อให้สามารถกลับมาประกอบการได้ใหม่ โดยเร็วที่สุด คาดว่าภายในเดือนม.ค.ปีหน้า โรงงานส่วนใหญ่จะสามารถกลับมาประกอบการได้

นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการอนุมัติให้ขยายสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลง ทุนให้แก่โครงการที่ประสบอุทกภัยไปแล้วจำนวน 7 โครงการเงินลงทุนรวม 504 ล้านบาท และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 9 โครงการวงเงินลงทุนรวม 2,127 ล้านบาท