ริมปรับกลยุทธ์ใหม่ พัฒนาซอฟต์แวร์ “แบล็กเบอร์รี่ โมบาย ฟิวชั่น” หวังชิงส่วนแบ่งตลาดคืนจากแอ๊ปเปิ้ล และกูเกิล พร้อมเปิดบริการปี 55

ริมปรับกลยุทธ์ใหม่หัน โฟกัสธุรกิจทำเงินพัฒนาซอฟต์แวร์ “แบล็กเบอร์รี่ โมบาย ฟิวชั่น” ช่วยองค์กรบริหารข้อมูลบนสมาร์ทดีไวซ์ข้ามแพลตฟอร์ม หวังชิงส่วนแบ่งตลาดคืนจากแอ๊ปเปิ้ล และกูเกิล คาดพร้อมเปิดบริการไตรมาสแรกปี 55

หนังสือ พิมพ์วอลสตรีทรายงาน รีเสิร์ช อิน โมชั่น(ริม) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบล็คเบอร์รี่ พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่ช่วยลูกค้าองค์กรบริหารจัดการข้อมูลการเชื่อมต่อ และติดตั้งแอพพลิเคชั่นของพนักงานบนแพลตฟอร์มโมบายชื่อว่า “แบล็กเบอร์รี่ โมบาย ฟิวชั่น” ใช้ได้ทั้งบนแบล็คเบอร์รี่ แทบเล็ตเพลย์บุ๊ค รวมถึงโอเอสคู่แข่ง ทั้งไอโฟน ไอแพด และแอนดรอยด์

นายอลัน พาเนซิค รองประธานฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์องค์กร บริษัทรีเสิร์ช อิน โมชั่น หรือ ริม กล่าว ว่า ขณะนี้มีบริษัทขนาดเล็กกว่า 12 บริษัทเข้ามาถามหาบริการดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้บริการได้อย่างเป็นทางการภายในต้นปี 2555

เขาให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ นับเป็นการปรับกลยุทธ์ครั้งสำคัญมากสำหรับริม บริษัท ได้เริ่มนำเวอร์ชั่นทดลองให้ธุรกิจที่ให้บริการทางการเงิน การผลิต และผู้ผลิตยาได้ใช้แล้ว แต่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลด้านราคา บอกแต่เพียงว่าสามารถรองรับดีไวซ์ได้จำนวน 1 หมื่นเครื่อง หรือ 5 เท่าของเซิร์ฟเวอร์ลูกค้าองค์กรที่ใช้อยู่ปัจจุบัน

นายแจ็ค โกลด์ นักวิเคราะห์จากเจ โกลด์ แอสโซซิเอท บริษัทวิเคราะห์ด้านเทคโนโลยี กล่าวว่า โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว คงเป็นไปไม่ได้ที่การใช้งานจะกระจุกตัวอยู่กับแค่ดีไวซ์ของผู้ผลิตเพียงราย เดียว

ทั้งนี้ ในข้อมูลยังระบุด้วยว่า ลูกจ้างหลายบริษัทเริ่มเรียกร้องให้ผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยี ยอมให้ใช้สมาร์ทโฟนของผู้ผลิตที่หลากหลาย นอกจากแบล็คเบอร์รี่มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังมีประเด็นปัญหาด้านโลจิสติกส์ และความปลอดภัยที่กำลังเป็นที่วิตกกังวล ทำให้บริษัทขนาดเล็กจำนวนมาก เริ่มมองหาซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้ง่าย โดยริมเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่กำลังกระโดดเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าเหล่านั้น

รายงานข่าว กล่าวว่า กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่เป็นการรักษาฐานลูกค้าเดิมของริม ที่ทยอยลดลง แต่ยังเป็นการใช้จุดเปลี่ยนของตลาดมาเป็นช่องทางเพื่อรักษาระยะห่างให้ตัวเองคงอยู่ในตลาดต่อไปได้

ขณะเดียวกัน ยังทำให้นักวิเคราะห์จำนวนมาก รวมทั้งเหล่านักลงทุนที่เคยขายหุ้นริมทิ้งไปก่อนหน้านี้ เริ่มหันกลับมาจับตามองธุรกิจด้านการบริการในภาคธุรกิจของบริษัทมากขึ้น โดยไตรมาสที่ผ่านมาธุรกิจด้านการบริการ และซอฟต์แวร์สร้างสัดส่วนรายได้ให้ริมกว่า 25%

นายฟิล เรดแมน นักวิเคราะห์บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ ประเมินว่า มีความต้องการสูงมากรออยู่ในตลาด และเป็นข้อได้เปรียบของริมที่ทำให้การบริหารข้อมูลสามารถทำได้กับทุกดีไวซ์ นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ของตัวเองด้วยการควบคุมผ่านหน้าจอเดียว