User Online ( 1 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » ตลาดสินค้าไอทีโค้งท้ายเอาไม่อยู่ ยอดขายหลุดเป้า-"เอเซอร์"ไม่ฝืนรอกำลังซื้อต้นปี
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

ตลาดสินค้าไอทีโค้งท้ายเอาไม่อยู่ ยอดขายหลุดเป้า-"เอเซอร์"ไม่ฝืนรอกำลังซื้อต้นปี

เอาไม่อยู่ ยักษ์ "ไอที" ยอมรับตลาดโค้งท้ายหลุดเป้า 30-40% พิษน้ำท่วมยืดเยื้อมู้ดจับจ่ายดับสนิท "เอเซอร์" ตัดสินใจเบรกกิจกรรมการตลาด รอต้นปีกำลังซื้อฟื้น ฟาก "อัสซุส" ผนึกพาร์ตเนอร์เดินสายจัดอีเวนต์ปั๊มยอดขายตลาดต่างจังหวัด "โตชิบา" อัดสารพัดโปรโมชั่น พร้อมขนทัพสินค้าใหม่ลงตลาด ขณะที่ "เดอะแวลลู" เผยออร์เดอร์ "ต.ค.-พ.ย" หายวับ


สถานการณ์น้ำท่วมที่ยืดเยื้อ และขยายวงกว้างในกรุงเทพมหานครมีผลกระทบโดยตรงต่ออารมณ์จับจ่ายของผู้บริโภค แม้สถานการณ์หลายพื้นที่จะเริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว แต่ก็ทำให้งานแสดงสินค้าอย่าง "คอมมาร์ต" ล่าสุดได้ตัดสินใจยกเลิกการจัดงานแล้ว หลังเลื่อนจากเดือน พ.ย.มาเป็น ธ.ค.

นาย พรเทพ วัชรอำนวย กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อคอมมาร์ตได้ยกเลิกการจัดงานไป บริษัทได้เตรียมกิจกรรมการตลาดกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้ โดยร่วมกับพาร์ตเนอร์จัดอีเวนต์ย่อยในแต่ละภูมิภาค เน้นทำโปรโมชั่นผ่อนสินค้า 0% และแคมเปญอื่น ๆ เพื่อผลักดันยอดขายในไตรมาสสุดท้าย แต่เป้ายอดขายจะลดลง 30% เทียบกับไตรมาสที่ 3 เพราะผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วม ซึ่งในแง่กำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มกลับมาบ้าง เนื่องจากลูกค้ากลัวฮาร์ดดิสก์ขาดตลาดจะทำให้สินค้าขึ้นราคา

"เดิม เราตั้งเป้ายอดขายไตรมาส 4 ไว้เท่าไตรมาส 3 ล่าสุดต้องปรับลดขณะที่ทั้งปีตั้งเป้าโตจากปีที่แล้ว 60-70% หรือ 3 แสนเครื่อง ขณะนี้ทำได้ 85% ที่เหลือคงหายไปกับยอดไตรมาส 4 ที่ลดลง ทำให้ทำยอดขายได้แค่ 2 แสนเครื่องปลาย ๆ สัดส่วนรายได้มาจากโน้ตบุ๊ก 70-75% พีซีและฮาร์ดแวร์ 20-25%"

นายพรเทพกล่าวต่อว่า น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์เป็นรายสัปดาห์ เนื่องจากเกิดปัญหากันคนละแบบ เดือนที่แล้วพยายามจำกัดยอดการสั่งสินค้าเพราะกลัวว่าจะค้างสต๊อก แต่ขณะนี้มีปัจจัยเรื่องฮาร์ดดิสก์ขึ้นราคาทำให้ผู้บริโภคออกมาซื้อมากขึ้น กลายเป็นต้องกังวลว่าจะทำอย่างไรให้มีสินค้าเพียงพอ

ด้านนายถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ส่วนธุรกิจไอที บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะนำโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมที่เตรียมไว้ในคอมมาร์ตมาใช้กับ โตชิบา เดย์ และโตชิบา เฟสติวัล ที่จะจัดขึ้นช่วงไตรมาส 4 โดยเน้นไปจัด งานในจังหวัดที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ส่วนในกรุงเทพฯยังมีงานย่อยที่ร่วมกับพาร์ตเนอร์ เช่น พันธุ์ทิพย์ฮอทเซล กลางเดือน ธ.ค. เป็นต้น

"ช่วงนี้งานย่อย ๆ ต้องเลื่อนออกไปต้น ธ.ค. และจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ เช่น อัลตร้าบุ๊กใหม่, แท็บเลต และพีซีออลอินวันจับตลาดกลางถึงบน รวมถึงโปรเจ็กเตอร์รุ่นใหม่ พร้อมกันนี้บริษัทได้เพิ่มงบประมาณการจัดโปรโมชั่นเพิ่มขึ้น 40-50% เพื่อกระตุ้นยอดขาย"

ภาพรวมตลาดกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมในกรุงเทพฯทำให้ ยอดขายลดลงกว่า 50% เนื่องจากผู้บริโภคไม่มีอารมณ์จับจ่าย ประกอบกับไม่มีกำลังซื้อ คาดว่า ในไตรมาส 4 คงตกลง 30-40% สำหรับโตชิบาไม่ได้ปรับเป้า แต่การเติบโตในปี 2554 จะลดเหลือ 40% จากที่ตั้งไว้ 50% โดยไตรมาส 4 ยอดขายลดลง 30% จากปกติมียอดขายคอมพิวเตอร์เฉลี่ยไตรมาสละ 60,000 เครื่อง ไตรมาส 4 เหลือ 40,000 เครื่อง

เช่นเดียวกัน นายบุญชัย เงาวิศิษฏ์กุล ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์คอมเมอร์เชียล บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า กำลังวางแผนโปรโมชั่นเพื่อฟื้นฟูยอดขายให้ลูกค้า โดยยืนราคาสินค้าเดิมเพราะยังมีซัพพลายอยู่ทำให้ไม่ต้องปรับขึ้นราคาจากต้น ทุนของฮาร์ดดิสก์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะคงราคาไปได้ถึงสิ้นปีนี้ ทั้งจะมีบริการซ่อมเครื่องฟรี และลดค่าอะไหล่ 30-50%

โดยตนมองว่า ปัญหาน้ำท่วมยังไม่จบในปีนี้ คาดว่ากำลังซื้อคอมพิวเตอร์จะกลับมาปีหน้าเพราะไม่ใช่อุปกรณ์ที่ผู้ได้รับผล กระทบซื้อใหม่เป็นชิ้นแรก ๆ ปลายปีนี้ บริษัทคงไม่ทำโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมอะไรแล้ว

ตลาดไอทีโดยรวมในไตรมาส 4 ในแง่ยอดขายน่าจะลดลงถึง 50% ส่วน เอเซอร์ได้รับผลกระทบทำให้ยอดขาย ติดลบจากเป้าที่วางไว้ 30% ส่วนเป้าทั้งปีเดิมตั้งเป้าการเติบโต 25% ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมน่าจะส่งผลกระทบกับยอดรวมของบริษัท 5-10%"

นาย สมศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะ แวลลูซิสเตมส์ จำกัด กล่าวว่า ทั้งบริษัทและตัวแทนจำหน่ายต่างได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยอย่างมาก แม้ศูนย์กระจายสินค้าจะไม่เสียหายแต่เกิดปัญหากับระบบโลจิสติกส์ทั้งประเทศ ทำให้การขนส่งล่าช้าและมีต้นทุนสูงขึ้น ประกอบกับยอดขายทั้งในตลาดภาคธุรกิจ และผู้บริโภคหดตัวลงมากตั้งแต่ ต.ค.และพ.ย.แทบไม่มียอดสั่งซื้อเข้าเลย

"ทุก คนกำลังกังวลเรื่องน้ำท่วมเป็นหลัก การลงทุนหรือการซื้อของ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหรือรายย่อยหยุดหมด กว่าจะเริ่มตั้งหลักได้คงไตรมาสแรกของปีหน้า หากสถานการณ์น้ำท่วมไม่ยืดเยื้อเกินสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ธ.ค."

อย่าง ไรก็ตาม กลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ยังลงทุนด้านไอซีทีเพราะเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญ หากตั้งหลักได้จะเริ่มซ่อมแซม และซื้อระบบใหม่ ทดแทน และในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้าจะเริ่มเห็นการลงทุนเพื่อวางแผนรับมือกับภัย พิบัติมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ตลาดไอทีเติบโตได้ แต่ลูกค้ารายย่อยคาดว่ากำลังซื้อจะชะลอตัวอีกนาน เพราะเครียดกับการใช้จ่ายเพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนเป็นหลักจึงเชื่อว่าแม้ ภาพรวมปีหน้าตลาดจะเติบโตสูงแต่ไม่มากพอชดเชยยอดขายที่หายไปในปีนี้

"น้ำ ท่วมโรงงานผลิตอุปกรณ์ไอทีอาจเป็นเรื่องใหญ่และส่งผลให้มีการขึ้นราคาสินค้า หลายประเภท แต่คงไม่มาก กลุ่มสินค้าอินเตอร์แบรนด์สามารถคุมต้นทุนได้อยู่แล้ว แต่ที่หนักคือกลุ่มโลคอล แบรนด์ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ปัญหานี้ก็ยังไม่น่าหนักใจเท่ากับการที่ผู้บริโภคไม่มีอารมณ์จะซื้อ สินค้า"
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2025. All rights Reserved.