User Online ( 13 ) 
 ระบบสมาชิก  ตั้งเป็นหน้าแรก  แจ้งโอนเงิน
 ตะกร้าสินค้า ( 0 Item ) 
Home » ข่าว » ซีเอปรับกลยุทธ์ตั้งตัวแทนประจำประเทศไทย
 
 ค้นหาสินค้า
 ตู้ Close Rack (31)
 ตู้ Wall Rack (9)
 ตู้ Open Rack (5)
 ตู้ Rack Accessories (39)
 สายLAN(UTP) สายแลน (183)
 เครื่อง Server (35)
 เครื่องสำรองไฟ UPS (62)
 
 สมัครสมาชิกจดหมายข่าว
สมัครรับจดหมายข่าว รับข้อเสนอพิเศษ จากร้านค้า
 ข่าว

ซีเอปรับกลยุทธ์ตั้งตัวแทนประจำประเทศไทย

ซีเอ ปรับโมเดลรุกตลาดอาเซียนใหม่ ด้วยการตั้งตัวแทนธุรกิจประจำแต่ละประเทศเน้นขายเฉพาะซีเอแบรนด์เดียว คาดในไทยรู้ผลในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า พร้อมเผยผลวิจัย คลาวด์เทคโนโลยีเปลี่ยนบทบาทซีไอโอในองค์กรจากนักเทคนิคมาเป็นนักวางแผน กลยุทธ์องค์กรด้วย

นายวิกเตอร์ เฉิง รองประธานบริหารฝ่ายขาย เอเชีย เซาธ์ บริษัท ซีเอ เทคโนโลยี กล่าวว่า ศักยภาพ การลงทุนระบบไอซีทีในประเทศอาเซียนถือว่าสูงมากเป็นรองแค่ประเทศจีนเท่านั้น ทำให้ซีเอให้ความสำคัญกับการทำตลาดในภูมิภาคนี้ จึงได้มีการปรับโมเดลการทำตลาดสำหรับภูมิภาคนี้ใหม่ โดยเรียกว่า Country Representative Partner หรือตัวแทนธุรกิจประจำประเทศ โดยพาร์ตเนอร์แบบนี้จะรับผิดชอบตั้งแต่การลงทุนทั้งด้านบุคลากร ด้านการตลาดและด้านเทคนิค โดยจะได้สิทธิในการทำตลาดโซลูชันของซีเอทุกผลิตภัณฑ์

'ซีเอนำโมเดลใหม่มาใช้ใน 3 ประเทศที่มีศักยภาพทางด้านไอซีทีสูงก่อน ประกอบไปด้วยมาเลเชีย ไทย และอินโดนีเซีย ซึ่งได้แต่งตั้งบริษัท ไมโครลิงก์ ไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาสำหรับทำตลาดในมาเลเชีย ส่วนไทยคาดว่าจะประกาศในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ ที่สำคัญคือ ตัวแทนธุรกิจนี้ในแต่ละประเทศจะมีเพียงแค่ 1 รายเท่านั้น'

รูปแบบการทำตลาดของตัวแทนธุรกิจประจำประเทศนั้น จะแตกต่างจากรูปแบบตัวแทนจำหน่ายทั่วไป ตรงที่ตัวแทนธุรกิจประจำประเทศจะทำตลาดเฉพาะโซลูชันของซีเอเพียงอย่างเดียว โดยมีบริษัท ซีเอ เซลล์ ประเทศไทย คอยสนับสนุนด้านการตลาด เทคโนโลยีและการสนับสนุนด้านธุรกิจ

นายวิกเตอร์ กล่าวว่า ซีเอ ได้มอบหมายให้บริษัท Vanson Bourne ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดอิสระที่เชี่ยวชาญในด้านตลาดเทคโนโลยีมาทำการสำรวจ บทบาทในอนาคตของซีไอโอ โดยถามความเห็นของบรรดาซีไอโอในองค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 500 คน ในธุรกิจโทรคมนาคม ค้าปลีก การเงินการธนาคารและอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งในภูมิภาคอาเซียนมีซีไอโอที่เข้าร่วมประมาณ 270 ราย ในจำนวนนั้นเป็นซีไอโอในประเทศไทย 30 ราย

ผลการสำรวจความเห็นซีไอโอไทย ในรายงานฉบับนี้ พบว่า 57% เชื่อว่า คลาวด์เทคโนโลยีมีผลในเชิงบวกในการช่วยให้ตนเองมีเวลามากขึ้นในการพัฒนา ยุทธศาสตร์ธุรกิจและนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ ซึ่งทำให้บทบาทของซีไอโอไม่ได้จำกัดอยู่ที่แค่ดาต้าเซ็นเตอร์หรือระบบไอที ทางเทคนิคเหมือนในอดีตอีกต่อไป แต่จะต้องมองถึงการนำเทคโนโลยีมาช่วยสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจให้กับองค์กรมาก ขึ้น

รายงานดังกล่าวยังได้ค้นพบว่า การที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมของการใช้งานระบบคลาวด์ที่ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลานั้น ซีไอโอต่างเห็นว่าจำเป็นต้องมีทักษะใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจความเสี่ยง การเจรจาและการขาย ตลอดจนทักษะในการจัดซื้อเชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องระเบียบและกฏหมายภาครัฐมีความสำคัญอย่างยิ่ง

'เราต่างทราบกันดีแล้วว่า คอมพิวเตอร์ระบบคลาวด์ได้ส่งผลในเชิงปฏิวัติต่อภาคธุรกิจ แต่ที่ส่งผลนอกเหนือไปจากนั้นก็คือ ยังทำให้เกิดผู้นำเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มผู้บริหารที่เข้าใจชัดว่า การใช้งานระบบคลาวด์จะมีผลต่อการทำงานขององค์กรอย่างไรบ้าง รวมทั้งเป็นกลุ่มที่เชื่อว่า ระบบคลาวด์จะทำให้ตนก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีในอนาคตได้อย่าง ไร'

ทั้งนี้ไอดีซีได้ประมาณการเติบโตด้านการลงทุนระบบไอซีทีของไทยในปี นี้ว่า จะเติบโตประมาณ 10.4% หรือประมาณ 16.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่สำหรับการลงทุนทางด้านคลาวด์เทคโนโลยีนั้น คาดได้ยากกว่าจะมีมูลค่าเท่าไร แต่เชื่อว่า กลุ่มธุรกิจที่จะมีส่วนผลักดันในการใช้คลาวด์นั้น น่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม เนื่องจากมีความคล่องตัวมากกว่ากลุ่มธุรกิจทางด้านธนาคารที่ติดปัญหาเรื่อง กฎระเบียบของแบงก์ชาติ
Copyright RackServerOnline.com 2010 - 2024. All rights Reserved.