กลายเป็นกระแสหลักในตลาดโทรศัพท์มือถือไปแล้วเรียบร้อย สำหรับ "สมาร์ทโฟน" ปัจจุบันระดับ "ราคา" เริ่มปรับลดลงมาก มีให้เลือกหลากรุ่นหลายแบรนด์ ทำให้ขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นอีกเยอะ

ค่ายมือถือทั้งหลายคาดว่าปี 2555 ตลาดรวมสมาร์ทโฟนในบ้านเรามีโอกาสไปถึง 5 ล้านเครื่อง เพิ่มจาก 3 ล้านในปีที่ผ่านมา

จะว่าไป "ฟีเจอร์โฟน" เดี๋ยวนี้ก็พัฒนาขึ้นมาก ฟังเพลง-ต่อเน็ต และแชตได้เช่นกัน แต่ถูกกว่า จึงแสดงผลได้ไม่ดีเท่า "สมาร์ทโฟน"

โทรศัพท์ ฉลาด ๆ หรือเจ้าสมาร์ทโฟนทุกวันนี้ไม่ได้มีแต่ราคาแพงระดับหมื่นสองหมื่น ต่ำหมื่นก็มีไม่น้อย "ประชาชาติธุรกิจ" รวบรวมสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 5 พันบาทที่เพิ่งเปิดตัวในไตรมาสสุดท้ายปี 2554 ที่ผ่านมา

เริ่มกัน ที่แบรนด์จีน "หัวเว่ย" รุ่น IDEOS X1 (GAGA) เปิดตัวลงตลาดในราคา 3,990 บาท ทีเด็ดอยู่ตรงที่รองรับระบบ 3 จี หน้าจอทัชกรีน Capacitive ขนาด 2.8 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 240 x 320 พิกเซล รองรับไวไฟ แถมเป็นตัวกระจายสัญญาณด้วย (ฟังก์ชั่นนี้ไอแพด 2 ยังไม่มี) กล้องดิจิทัล 3.15 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพแล้วแชร์ต่อได้ทันที ซีพียู 528 MHz รองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 Froyo

อีกยี่ห้อคู่แข่งตัวกลั่น จากแดนมังกรเหมือนกัน ZTE รุ่น Racer 2 ตั้งราคาเท่ากันเด๊ะ 3,990 บาท ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 Froyo ความเร็วซีพียู 500 MHz กล้องดิจิทัล 3.2 ล้านพิกเซล ถ่ายวีดีโอได้ รองรับ 3 จี และไว-ไฟ หน้าจอขนาด 2.8 นิ้ว ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล สามารถระบุตำแหน่งตัวเองผ่านแอปพลิเคชั่น Google Maps และ Digital Compass

ข้ามมาบ้านใกล้เรือนไต้หวันกัน บ้าง "เอชทีซี" รุ่น Explorer หน้าจอ 3.2 นิ้ว ความละเอียด 320 x 480 พิกเซล รองรับการใช้งานระบบ 3 จี และไว-ไฟ ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.5 Gingerbread ซีพียู 600 MHz กล้องความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้ ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล ราคา 5,900 บาท

ต่อกัน ที่แบรนด์เกาหลี หลังพัฒนารุ่นท็อป ๆ ทั้งมือถือสามมิติ หรือซีพียูระดับควอดคอร์ "แอลจี" ยังให้ความสำคัญกับกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาประหยัดด้วย มี LG Optimus Net Dual สมาร์ทโฟนสองซิม นับเป็นแอนดรอยด์ตัวแรก ๆ ที่ทำสองซิม รองรับ 3 จี และไว-ไฟ รวมถึงสามารถเป็นตัวกระจายสัญญาณไว-ไฟเช่นกัน กล้องความละเอียด 3 ล้านพิกเซล หน้าจอความละเอียด 320 x 480 พิกเซล ขนาด 3.2 นิ้ว ซีพียู 800 MHz ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.4 Gingerbread ราคาอยู่ที่ 6,900 บาท

ฟาก "ซัมซุง" แหวกแนวตลาดด้วยการสร้างระบบปฏิบัติการของตัวเอง ในชื่อ "Bada" มีตั้งแต่รุ่นท็อปจนถึงระดับล่าง เช่น รุ่น Wave Y มาพร้อม Bada 2.0 รองรับระบบ 3 จี และไว-ไฟ พร้อมเทคโนโลยี NFC (Near field communication) พัฒนาไปเป็นการจ่ายเงินผ่านมือถือได้ หน้าจอ 3.2 นิ้ว ความละเอียด 320 x 480 พิกเซล

ความเร็วซีพียู 832 MHz เสียดายที่กล้องมีความละเอียดแค่ 2 ล้านพิกเซล กับราคาที่สูงไปนิด 4,790 บาท

หรือ ใครอยากลองใช้ "Wellcom" ก็มี ในรุ่น A90+ ราคา 4,390 บาท หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ความละเอียด 480 x 320 พิกเซล รองรับระบบ 3 จี พร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.3.4 Gingerbread รองรับการใช้ไว-ไฟ และแอปพลิเคชั่น Google Maps และเข็มทิศดิจิทัล ที่สำคัญ มีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล สำหรับกล้องหลัง และระดับ VGA ในกล้องหน้า สามารถถ่ายวิดีโอได้ในระดับ 176 x 144 พิกเซล

ปิด ท้ายด้วย "โนเกีย" ที่ยังปักหลักกับระบบปฏิบัติการ Symbian S60 ไม่เสื่อมคลาย มีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่รองรับซิมเบี้ยนออกมาต่อเนื่อง ล่าสุดกับรุ่น C5-06 น่าเสียดายที่ไม่รองรับ 3 จี จึงต่ออินเทอร์เน็ตได้ที่ความเร็วระดับ Edge/GPRS รองรับไว-ไฟ พร้อมระบบค้นหาตำแหน่งผ่านแอปพลิเคชั่น Ovi Maps กล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอได้ ความละเอียด 640 x 352 พิกเซล พร้อมฟังก์ชั่นรองรับจาวา ราคา 4,550 บาท

"สมาร์ทโฟน" ราคาเอื้อมถึง จึงมีให้เลือกเยอะทีเดียว